Page 213 - การประชุม HACC Forum ครั้งที่ 13
P. 213
209
09-12 Poster Presentation
ชื่อเรื่อง : specimen เออรัก ไม่เออเร่อ (non-error)
ผู้นำเสนอ : ภัทรเศรษฐ์ พลเยี่ยม
เบอร์โทรศัพท์ : 09 4502 4554
หน่วยงาน: ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี จังหวัดนครราชสีมา
ความเป็นมาและความสำคัญ : จากข้อมูลสถิติอัตราการปฏิเสธสิ่งส่งตรวจและข้อมูลจากการได้รับ Incident report
ในรอบปี 2559-2561 ที่ผ่านมา พบว่ามีอัตราการปฏิเสธสิ่งส่งตรวจจากหลายสาเหตุ เช่น Hemolysis, Clot, เจาะ
ไม่ได้ตามปริมาตรที่กำหนด, ส่งผิดประเภท เป็นต้น เพื่อเป็นการลดอัตราการปฏิเสธสิ่งส่งตรวจแผนกห้องปฏิบัติการ
ทางการแพทย์จึงจำเป็นต้องหาแนวทางร่วมกันระหว่างแผนกต่างๆ เพื่อหาแนวทางการแก้ไขการเก็บสิ่งส่งตรวจต่างๆ
ในขั้นตอน Pre-analysis ทั้งนี้เพื่อผลประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วยเองที่ไม่ต้องถูกเจาะเลือดซ้ำ ได้ผลการตรวจวิเคราะห์ที่
ถูกต้อง ครบถ้วน และไม่ต้องรอผลการตรวจวิเคราะห์เป็นเวลานาน อีกทั้งยังช่วยให้แพทย์วินิจฉัยโรคและทำการรักษา
ผู้ป่วยได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว
วัตถุประสงค์/เป้าหมาย/เครื่องชี้วัด : 1) เพิ่มความรู้ความเข้าใจในกระบวนการเจาะเก็บสิ่งส่งตรวจอย่างถูกต้อง
ให้กับพยาบาล 2) พยาบาลมีทักษะการเจาะเก็บสิ่งส่งตรวจที่ถูกต้อง มีความเข้าใจและให้ความสำคัญกับขั้นตอน Pre-
analysis รับทราบถึง ผลกระทบด้านเวลาที่ผู้ป่วยจะได้รับช้ากว่ากำหนด ซึ่งอาจกระทบต่อการประเมินผู้ป่วยและการ
รักษา 3) ลดการเจาะเลือดผู้ป่วยซ้ำ 4) ลดปัญหาการเจาะเก็บสิ่งส่งตรวจผิดพลาด
กิจกรรมการพัฒนา : 1) ให้ความรู้ด้านกระบวนการ pre- analysis ที่ถูกต้อง จำเป็นและสอนทักษะรวมทั้งเทคนิค
การเจาะเลือดที่ถูกต้องรวมทั้งอธิบายถึงสาเหตุต่างๆที่ทำให้เกิด Error ในขั้นตอนการเจาะเก็บสิ่งส่งตรวจให้
ผู้ปฏิบัติงานเข้าใจและทราบผลกระทบจากขั้นตอน Pre-analysis รวมทั้งสอบประเมินผลการอบรมผู้ที่เข้ารับการ
ฝึกอบรมโดยเป็นข้อสอบทั้งก่อนและหลังการอบรม 2) ห้องปฏิบัติการฯเก็บข้อมูลการเจาะเลือดซ้ำจากการปฏิเสธสิ่ง
ส่งตรวจโดยมีการบันทึกข้อมูลเก็บประจำเดือนไว้ 3) ทบทวนอุบัติการณ์ร่วมกันระหว่างแผนกต้นทางกับแผนก
ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์เพื่อวิเคราะห์หาสาเหตุรวมทั้งวางมาตรการและแนวทางการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ
กรณีเกิดเหตุการณ์ เช่น การเจาะเลือดใส่หลอดผิดชนิด 4) วิเคราะห์ข้อมูลและสรุปผล
บทเรียนที่ได้รับ : จากการดำเนินการพบว่าการเข้าร่วมกิจกรรมและการดำเนินการต่อของแผนกต่างๆ ยังไม่เป็นไป
ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ จึงมีการต่อยอดเพิ่มเติมโดยเจ้าที่ห้องปฏิบัติการทางการแพทย์ติดตามไปอบรมที่แผนก
เพื่อให้ได้ผลเป็นไปตามเป้าหมาย พบว่าอัตราการปฏิเสธสิ่งส่งตรวจที่ผิดพลาดมีจำนวนลดลง และโอกาสพัฒนางาน
ครั้งต่อไปควรมีการกระตุ้นให้แผนกต่างๆ เกิดการมีส่วนร่วมระหว่างแผนกและเห็นความสำคัญให้มากขึ้น รวมทั้งจัด
อบรมและเก็บข้อมูลให้ครอบคลุมสิ่งส่งตรวจชนิดอื่น ๆ เช่น เสมหะ ปัสสาวะ อุจจาระ เพื่อให้ได้ผลที่ครอบคลุมมาก
ยิ่งขึ้น