Page 306 - การประชุม HACC Forum ครั้งที่ 13
P. 306
302
14-11 Oral Presentation
ชื่อเรื่อง : ปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในโรงพยาบาลคอนสวรรค์
ผู้นำเสนอ : โรจกร ลือมงคล ตำแหน่ง : พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ
E-mail rodjakorn1234@gmail.com เบอร์โทรศัพท์ : 09 0419 9964
หน่วยงาน: โรงพยาบาลคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ
ความเป็นมาและความสำคัญ : ผู้ป่วยคลินิกโรคไตเสื่อมโรงพยาบาลคอนสวรรค์ มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี ผู้ป่วยส่วน
ใหญ่มีการรับรู้ถึงโอกาสเสี่ยงและตระหนักถึงความรุนแรงของภาวะแทรกซ้อนของโรคไตเรื้อรังว่าเป็นโรคอันตรายถึง
ชีวิต แต่การปฏิบัติตัวเพื่อชะลอความเสื่อมของไตและการปฏิบัติพฤติกรรมในการดูแลตนเองเพื่อลดภาวะแทรกซ้อน
ของโรคยังมีอุปสรรคอยู่ เนื่องจากการทำกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน รวมถึงการรับประทานอาหารของครอบครัว
ชาวอีสาน มักจะรับประทานอาหารรสจัดและรสเค็ม ผู้วิจัยจึงได้นำข้อมูลดังกล่าวมาทบทวนกับวรรณกรรมที่เกี่ยวข้อง
เพื่อที่จะอธิบายการรับรู้ของผู้ป่วยในการปฏิบัติพฤติกรรมสุขภาพ ผลการทบทวนพบว่า ข้อมูลเบื้องต้นดังกล่าวมีความ
สอดคล้องกับแนวคิดแบบแผนความเชื่อด้านสุขภาพ (Health belief model: HBM) ดังนั้นผู้วิจัยจึงสนใจที่จะศึกษา
เชิงพรรณนาแบบภาคตัดขวาง
วัตถุประสงค์: เพื่อศึกษาปัจจัยที่สัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองของผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังในโรงพยาบาลคอน
สวรรค์
วิธีการดำเนินการวิจัย : กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้ป่วยโรคไตเรื้อรังที่มาตรวจรักษาที่คลินิกจำนวน 137 ระหว่างเดือน
มกราคม ถึง พฤษภาคม 2562 เก็บรวบรวมข้อมูลโดยใช้แบบสอบถามที่ผู้วิจัยพัฒนาขึ้นตามกรอบแนวคิดของการวิจัย
และผ่านการตรวจสอบความตรงเชิงเนื้อหาโดยผู้ทรงคุณวุฒิ 3 ท่าน และวิเคราะห์ความเชื่อมั่นภายในโดยใช้สูตรของคู
เดอร์-ริชาร์ดสัน และหาค่าสัมประสิทธิ์อัลฟาครอนบาค ได้เท่ากับ 0.77 และ 0.68 ตามลำดับ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้
สถิติ Multiple regression
ผลการวิจัย : พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง ร้อยละ 63.50 มีอายุอยู่ระหว่าง 50-89 ปี โดยร้อยละ 48.90
มีอายุมากกว่า 70 ปี จบการศึกษาชั้นประถมศึกษาร้อยละ 82.50 และส่วนใหญ่ร้อยละ 75.90 มีรายได้น้อยกว่าหรือ
เท่ากับ 5,000 บาทต่อเดือน ผลการวิเคราะห์หาความสัมพันธ์โดยใช้สถิติถดถอยเชิงพหุคูณพบว่า ปัจจัยที่มี
ความสัมพันธ์กับพฤติกรรมการดูแลตนเองคือเพศหญิง (p < 0.001) ความรุนแรงของโรคไตเรื้อรังตั้งแต่ระยะที่ 4 ขึ้น
ไป (p = 0.019) และการรับรู้อุปสรรคของการปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันภาวะแทรกซ้อนในโรคไตเรื้อรัง (p < 0.001)
การนำไปใช้ประโยชน์ : ผู้วิจัยนำมาใช้เป็นข้อมูลพื้นฐาน สำหรับการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมความสำเร็จในการ
ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมต่อไป