Page 73 - ทั้งหมด
P. 73
ี
ี
- สังเกตอาการแพ้ถ้ามอาการต้องหยุดยาไว้ก่อน ได้แก่ " คลื่นไส้อาเจยนเบื่ออาหารอ่อนเพลียท้องเสยการมองเห็น
ี
็
ุ
ี
ิ
ผิดปกตมจดบอดเห็นแสงเปนกลมๆรอบวัตถุสเข้ม "การเต้นของหัวใจผิดปกตจังหวะการเต้นของหัวใจช้าลง
ี
ิ
ี
ื
่
ึ
พยาบาลต้องจับชพจรก่อนให้ยาหากต ากว่า 60 คร้งตอนาทหรอไมสม าอย่างมากควรงดยาแล้วปรกษาแพทย์
่
่
ั
่
ี
ื
ื
่
่
่
ึ
- ความไวของกล้ามเน้อหัวใจตอยาจะเพิ่มข้นเมอ" ผู้ปวยอายุมากข้นหน้าทของตับและไตลดลง "ความไมสมดลของ
ึ
ี
่
ุ
่
ี
่
่
ั
อิเล็คโตรลัยต์ผู้ปวยที่ได้รบยาขับปสสาวะอาจท าให้โปแตสเซยมต ่าถ้าโปแตสเซยมต ่าผู้ปวยที่ได้รบยาจะท าให้หัว
ี
ั
ั
ิ
ใจเต้นผิดปกติได้ง่าย" ขาดออกซเจนจากความผิดปกติของปอดเช่นปอดบวมปอดแฟบ
3.2 การให้ยาลดแรงต้านในหลอดเลือดแดง + ยาที่มีฤทธเฉพาะที่หลอดเลือดแดงเช่น Hydralazine (Apressoline) /
ิ
์
ี
ี
่
ี
่
่
ยาทมฤทธขยายทั้งหลอดเลือดแดงและหลอดเลือดด ามผลลดการคั่งของเลือดทไหลกลับหัวใจด้วยเชน Sodium
ี
ิ
์
nitroprusside, Nitroglycerine, Isodil, Minipress
ี
่
ั
่
่
3.3 การให้ยาขับปสสาวะ (Diuretic) ท าให้เพิ่มการขับโซเดยมออกจากรางกายยาทใช้บอยเชน Furosemide (Lasix)
่
ี
ื่
และ Hydrochlorothiozide (Dichlotide) ควรให้ยาตอนกลางวันระวังเรองสมดลอิเล็คโตรลัยต์โดยเฉพาะภาวะ
ุ
ั
ุ
่
่
hypokalemia ตวงปสสาวะและชั่งน ้าหนักทกวัน จ ากัด เกลือโดยวางแผนรวมกับผู้ปวย
ุ
ิ
่
่
้
ี
้
4. เพื่อปองกันและเตรยมพรอมที่จะชวยเหลือผู้ปวยในภาวะฉกเฉนภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยเชน Acute pulmonary
่
ิ
่
edema, Cardiogenic shock พยาบาลควรสังเกตอาการเหล่าน้อย่างใกล้ชดเพือให้การชวยเหลือได้อย่างทันทวงท ี
่
่
ี
้
่
่
่
ิ
่
ึ
่
ั
่
5. เพือสงเสรมให้ผู้ปวยปรบตัวกับภาวะทเกิดข้น“ ควรสรางสัมพันธภาพกับผู้ปวยอย่างสม ่าเสมอเพื่อให้ผู้ปวยเกิดความ
ี
ไว้วางใจวางแผนแก้ไขปญหารวมกันและให้ก าลังใจให้ผู้ปวยสามารถปรบตัวได้
่
่
ั
ั
ู
้
ู
ิ
ื่
ุ
่
6. เพื่อให้ผู้ปวยมความรเรองโรคและการดแลตนเอง> สอนให้ผู้ปวยสามารถประเมนภาวะสขภาพของตนเองได้>
่
ี
ื
ิ
อาการเร่มต้นของภาวะหัวใจล้มเหลวเชนน ้าหนักเพิ่ม 1 กก. ภายใน 1-2 วันผิวหนังตงข้อเท้าบวมรองเท้าเส้อผ้าคับไอ
ึ
่
บอยอ่อนเพลียชั่งนน. ตอนเช้าก่อนอาหาร
่