Page 128 - ธรรมะบรรยาย1525
P. 128
ิ
มนต์เวลานี้ เดินจงกรมเวลานี้ นั่งสมาธเวลานี้ เราก็เข้ามา ไม่ใช่ได้เวลาแล้วก็ติดโน่นติดนี่ติดนั่น
เดี๋ยวก็ไปโน่นเดี๋ยวก็ไปนี่ เลยไม่เป็นศีล
“ศีล” แปลว่า ท าอะไรให้เป็นปกติ เราได้ตั้งสัจจะว่า เราจะปฏิบัติและศึกษาศีลธรรม ๘ ข้อ
ข้อ ๑ ข้อ ๒ ข้อ ๓ ข้อ ๔, ๕, ๖, ๗, ๘ แล้วก็ทาตามนั้นนี่เรียกว่าศีลพิเศษ การได้ท าให้เป็นปกติจน
เกิดนิสัย นิสัยมันก็จะเกิดเป็นวาสนา นิสัยคือมันสามารถจะไปนอนเนื่องอยู่ในจิตของเรา วาสนาก็
ไปอยู่ในจิต มันเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น เราก็ให้มันอยู่เยอะ ๆ เมื่ออยู่เยอะแล้ว มันก็จะแปรเป็นอริยทรัพย ์
ให้เราข้ามภพข้ามชาติ
ั้
โอกาสนี้ท่านทงหลายได้มาร่วมสมาธิสัญจรออนไลน์กับวัดเทพเจติยาจารย์ ขอให้ทุกท่านได้
ตั้งอยู่ในสัจจะของตัวเองก็คือความจริงใจ ความซื่อสัตย์ของตัวเอง เมื่อเราได้ตั้งสัจจะว่าเราจะ
ปฏิบัติธรรมให้ได้เวลานี้ เราก็เข้ามา แม้ว่าจะมีขาดบ้างนิด ๆ หน่อย ๆ ก็ไม่เป็นไร มันก็มีเรื่องจ าเป็น
ื่
บ้าง แต่ถ้าบางท่านไม่มีเรองจ าเป็น ก็ขอให้ได้เต็มที่เลย แค่ ๓ วันเท่านั้นเอง
ช่วงต่อไปพระสงฆ์จะได้ไปท ากิจของพระสงฆ์ ก็คือไปกวาดลานวัด ทาความสะอาดวัด ส่วน
ญาติโยมทั้งหลายก็ท าภารกิจหน้าที่ของตัวเองเสร็จแล้ว ๑ ทุ่มเราก็จะมาร่วมกันสวดมนต์ เหมือน
ดังที่เคยทามาทุกวันนั้นแหละ เมื่อเราท าอย่างนี้ถือว่าให้โอกาสแก่ตัวเองให้เกิดทานบารมี ศีลบารมี
่
เนกขัมบารมี “เนกขัมบารมี” หมายความวา ออกจากสิ่งที่มันรกรุงรัง ออกจากสิ่งที่มันเป็นภาระ
ออกจากสิ่งที่มันท าให้วุ่นวาย มาทาความสงบ คือมาสวดมนต์นี้แหละ เรียกว่า “เนกขัมมะ” เนกขัม
มะจริง ๆ คือออกจากบ้านช่องไปสถานที่ปฏิบัติธรรม อันนี้ออกทางกาย ส่วนออกทางใจคือออก
จากความวุ่นวาย ออกจากภาระหน้าที่ที่มันเป็นสิ่งอื่น ภาระหน้าทที่เราทาคือภาระหน้าททางด้าน
ี่
ี่
จิตใจ เราจะพัฒนาจิตใจของเราด้วยศีล ด้วยสมาธิ ด้วยปัญญา “ปัญญา” หมายความว่าการ
พิจารณาตั้งแต่เท้าไปจนถึงศีรษะ มีส่วนใดของร่างกายที่ไม่เปลี่ยนแปลงบ้าง มีไหม ท่านลองคิดดูให้
เป็นการบ้าน ลองคิดดูว่าส่วนใดที่คงที่ตั้งแต่เกิดมาจนถึงปัจจุบัน มีส่วนใดของร่างกายคงที่ไม่มีการ
เปลี่ยนแปลงเลย นี่คือปัญญา มาพิจารณาดูว่าอะไรที่จีรังยั่งยืน อะไรคงทนถาวร
เพราะฉะนั้น แม้แต่ร่างกายของเราก็ไม่มีส่วนใดที่คงทนถาวร แล้วอะไรที่มันคงทนถาวร มัน
ี
ไม่มี เมื่อไม่มีเราต้องเรยนรู้ให้เข้าใจ เมื่อเรียนรู้เข้าใจแล้วเราก็จะไม่กังวล เมื่อไม่กังกลนั่นแหละเรา
จะเป็นอิสระ จิตของเราจะเป็นอิสระ เมื่อจิตเป็นอิสระก็ไม่ขึ้นกับใคร เมื่อไม่ขึ้นกับใคร ก็เข้าสู่ความ
เป็นอิสระภาพหรือเข้าสู่นิพพานไป “นิพพาน” หมายถึง ความเป็นไทจากกิเลสทั้งมวล มันไม่ขึ้นกับ
กิเลสใด ๆ ทั้งสิ้น เมื่อไม่ขึ้นกับกิเลสใด ๆ ทั้งสิ้นมันจึงอิสระ เมื่อเป็นอิสระมันจึงไม่ตกต่ ามันก็เย็น
สบาย “นิพพาน” แปลว่าดับ แปลว่าเย็น นิพพานไม่เดือดร้อน “นิพพานัง ปรมัง สุขัง” นิพพานคือ
๑๒๘