Page 9 - Efavirenz WHO PQ: A case study of a public-private collaboration
P. 9
Efavirenz WHO PQ: กรณีศึกษาความร่วมมือรัฐ-เอกชน ในการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตและควบคุมคุณภาพ | ซ
ื่
เป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจในการจัดซื้อยาเพอสนับสนุนประเทศที่มีรายได้น้อย นอกจากนี้
ั
เป้าประสงค์ที่ส าคัญของ WHO PQ ยังประกอบด้วยการสนับสนุนให้เกิดการวิจัยและพฒนายาที่
ตอบสนองต่อความต้องการของประเทศที่มีรายได้น้อยรวมถึงยาสูตรเด็กส าหรับการติดเชื้อเอชไอวี/
ื่
ื่
เอดส์ และการประกันคุณภาพยาชื่อสามัญเพอกระตุ้นให้เกิดการแข่งขันด้านราคาเพอให้สามารถ
จัดหายาได้มากขึ้นด้วยกองทุนที่มีอยู่
ในบริบทของประเทศไทยที่ก าหนดให้ชุดสิทธิประโยชน์ด้านยาในระบบหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติครอบคลุมยาต้านไวรัสเอดส์นั้นก่อให้เกิดภาระด้านงบประมาณสาธารณสุขค่อนข้างมาก
ภายใต้ข้อจ ากัดด้านงบประมาณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขจึงได้มอบหมายให้องค์การเภสัช
กรรมขอรับรอง WHO PQ ในยาต้านไวรัสเอดส์ที่องค์การเภสัชกรรมมีผลิตภัณฑ์ในท้องตลาดแล้ว โดย
ื่
มุ่งหวังให้สามารถใช้งบประมาณของกองทุนโลกหรือองค์การระหว่างประเทศอนในการจัดซื้อยา
ดังกล่าวจากองค์การเภสัชกรรม ซึ่งจะช่วยประหยัดงบประมาณการจัดซื้อยาของภาครัฐ องค์การ
เภสัชกรรมจึงเริ่มด าเนินการเพอขอรับรอง WHO PQ ในปี พ.ศ. 2545 อย่างไรก็ตามพบว่าใน
ื่
ระยะแรกของการตรวจประเมินโดย WHO PQ Inspector team นั้น ในประเด็นด้านอาคารสถานที่
พบว่าอาคารผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ไม่ผ่านเกณฑ์มาตรฐานของ WHO GMP requirement การไม่มี
หน่วยงานด้านการประกันคุณภาพ ปัญหาความไม่สมบูรณ์ของเอกสารทะเบียนต ารับ เป็นต้น ทั้งนี้
ุ
เมื่อวิเคราะห์ถึงอปสรรคขององค์การเภสัชกรรมในการขอรับรอง WHO PQ ในระยะแรกพบว่าเกิด
จากปัจจัยภายในขององค์กรเป็นหลัก ประกอบด้วย
1) ความไม่พร้อมด้านสถานที่ กระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง การออกแบบและก่อสร้างโรงงาน
แห่งใหม่ การเลือกใช้เทคโนโลยี และความพร้อมของบุคลากร
2) การบริหารจัดการโครงการภายในองค์การเภสัชกรรม เป็นแบบ Silo มีลักษณะแยกกัน
ต่างคนต่างท า ไม่มีการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน
3) ระบบการบริหารขององค์การเภสัชกรรมในรูปแบบคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม
สัดส่วนของบุคลากรที่มีความสามารถของคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม ในแต่ละสมัย ก่อให้เกิด
ปัญหาความล่าช้าในการตัดสินใจและความไม่ต่อเนื่องในการสนับสนุนโครงการ
ส่งผลให้องค์การเภสัชกรรมต้องบริหารจัดการ ประเมินความแตกต่าง (gap) ระหว่างสิ่งที่
ั
องค์การเภสัชกรรมมี กับเกณฑ์ความต้องการของ WHO PQ และด าเนินการเพมการพฒนาศักยภาพ
ิ่
(capacity building) ทั้งเรื่องอาคารสถานที่ บุคลากร เอกสารทะเบียนต ารับยา และแผนการ