Page 3 - บทที่ 11 แสงและทัศนอุปกรณ์
P. 3
3
รูปที่ 34 โฟกัสของกระจกเงาเว้า รูปที่ 35 โฟกัสของกระจกเงานูน
เส้นตรงที่ลากผ่านจุด C และ V เรียกว่า แกนมุขสำคัญ โดยจุด V เรียกว่า จุดยอด ในกรณีกระจกเงา
นูน รังสีตกกระทบมีแนวขนานกับแกนมุขสำคัญ ดังรูปที่ 35 ถ้าต่อแนวของรังสีสะท้อนให้ย้อนกลับไปพบกัน
จะได้จุดตัดของรังสีสะท้อนหรือโฟกัสของกระจกเงานูนอยู่ด้านหลังของกระจกเงาบนเส้นแกนมุขสำคัญ ความ
ยาวโฟกัสของกระจกเงานูนเป็นครึ่งหนึ่งของรังสีความโค้งเช่นเดียวกับกรณีกระจกเงาเว้า แต่สำหรับรังสีตก
กระทบที่ขนานกันแต่ไม่ขนานกับแกนมุขสำคัญ เมื่อสะท้อนจากกระจกโค้งจะไปตัดกันที่จุดหนึ่งบนระนาบ
โฟกัส โดยเกณฑ์นี้ใช้ได้เฉพาะรังสีตกกระทบที่ทำมุมเล็ก ๆ กับแกนมุขสำคัญและตกกระทบกระจกเงาบริเวณ
ใกล้ขั้วกระจกเงาเท่านั้น
รูปที่ 36 ภาพที่เกิดจากกระจกเงาเว้า
ในกรณีกระจกเงาเว้า รังสีทั้งหลายตัดกันหน้ากระจกเงาเว้า ภาพที่เกิดจึงเป็นภาพจริงที่สามารถใช้
ฉากรับภาพได้ วัตถุที่อยู่ห่างจากกระจกเงาเว้าไกลกว่าความยาวโฟกัส จะเกิดภาพจริงเสมอ แต่ถ้าวัตถุอยู่
ระหว่างโฟกัสกับขั้วกระจก จะเกิดภาพเสมือน โดยกระจกเงาทั้ง 2 ชนิด มีความสัมพันธ์ของระยะวัตถุ ระยะ
1
1
1
ภาพ และความยาวโฟกัส เป็น = + นอกจากนี้ขนาดภาพยังมีทั้งใหญ่กว่า เท่ากับ และเล็กกว่า
′
วัตถุ เรียกการเปรียบเทียบขนาดของภาพกับขนาดของวัตถุว่า การขยาย กำหนด M แทนการขยาย มีสูตรว่า
ขนาดภาพ
= โดยถ้า M>1 ภาพมีขนาดใหญ่กว่าวัตถุ M=1 ภาพมีขนาดเท่ากับวัตถุ M<1 ภาพมีขนาดเล็ก
ขนาดวัตถุ
กว่าวัตถุ
11.3 การหักเหของแสง
เมื่อแสงเคลื่อนที่ผ่านผิวรอยต่อของตัวกลาง 2 ตัวกลาง จะเกิดการหักเหของแสง
11.3.1 กฎการหักเหของแสง
รังสีของแสงที่เคลื่อนที่ผ่านผิวรอยต่อเข้าไปอกตัวกลางหนึ่ง เรียกว่า รังสีหักเห เมื่อทำการทดลองวาง
ี
แท่นพลาสติกบนแผ่นกระดาษขาว แล้วฉายลำแสงตกกระทบผิวด้านข้างของแท่งพลาสติก จากนั้นลากเส้น
ตามขอบพลาสติก รังสีตกกระทบ รังสีหักเหในแท่งพลาสติก และรังสีหักเหในอากาศ บนกระดาษขาว วัดมุม
กระทบ มุมหักเหในแท่งพลาสติก มุมตกกระทบในแท่งพลาสติก และมุมหักเหในอากาศ ได้ความสัมพันธ์ว่า