Page 53 - ตำนานการสวดพระมาลัย
P. 53

๔๗


                                              สิ้นพระศาสนาเข้าสู่กลียุค




                       เมื่อพระศรีอริยเมตไตยได้ฟ๎งปุจฉาของพระมาลัยเถระถามถึงเรื่องการจะมาตรัสรู้ของพระองค   ์

               ในอนาคตกาลข้างหน้า จึงมีพระวิสัชนาดํารัสตรัสว่า " อีกไม่นานดอกพระคุณเจ้า เมื่อครบถ้วนห้าพัน

               ปีสิ้นศาสนาของพระพุทธโคดมแล้ว


                            ั้
                      ครั้งนนพวกสัตว์ทั้งหลายจะหน้ามืดตามัวประพฤติชวไม่รู้จักทําบุญกุศลสุจริต มีแต่จะคิด
                                                                      ั่
               กระทํากรรมอันบาปหนาหยาบช้า ขาดหิริโอตตัปปะมิรู้จักละอายต่อบาปกรรม แม่กับลูกจะอยู่กิน

               ด้วยกันเป็นสามีภรรยา พี่สาวกับน้องชาย พี่ชายกับนองสาว พี่ปูาน้าอาลุงหลานก็จะสมสู่อยู่กินกัน
                                                                ้
               เป็นสามีภรรยามิรู้ว่าลูกเขาเมียใคร เมามัวในกามา ใจบาปหยาบช้าเต็มไปด้วยความโลภ ความโกรธ

               ความหลง ประพฤติชั่วนานานัปการอันล่วงละเมิดศีลห้า ด้วยว่ามิมีผู้ใดจะดํารงทรงจําไว้ได้พระสัจ

                                                                                         ั่
               ธรรมเสื่อมหาย พระสงฆ์ทั้งหลายคนก็มิรู้จัก ด้วยมักละเมิดพระวินัยบัญญัติตัดนนเติมนี่ในที่สุดก็มี
               ความประพฤติดังเช่นฆราวาสผู้ครองเรือน ผ้าเหลืองแปดเปื้อนเป็นมลทินจึงเปลื้องออก ครั้นเมื่อมีกิจ

               ทางศาสนาจึงนํามาห่มคลุมเพื่อหากิน



                      ในที่สุดก็ลืมสื้นในวิธีการครองผ้าจึงฉีกบางส่วนออกมามัดไว้ที่คอ ข้อมือเพื่อหมายให้รู้ว่ามี

                                                                ี้
               อาชีพเป็นนักบวช ครั้นนานเข้าก็ขาดเปื่อยไปสิ้นคิดขเกียจสรรหามาใหม่ในที่สุดแล้วไซร้ก็หมดซึ่งสี
               ของผ้ากาสาวพัสตร์ ความชั่วกําเริบหนักหนาอายุของสรรพสัตว์ก็จะลดน้อยถอยลงตราบจนเหลือ ๑๐


               ปี เด็กเกิดมาได้เพียง ๕ ปี ก็มีระดูแต่งงานได้ อาหารทั้งหลายจะถอยถดหมดลงไป


                      ข้างฝุายเทพยดาพากันเอ็นดูหมู่สัตว์มีวิบากทั้งหลายก็จําแลงแปลงกายเป็นคนเสียสติบ้านุ่งผ้า

                                                                                  ื
                                                                                     ั้
               แดงร้องบอกแก่สรรพสัตว์กลางตลาดร้านถิ่นว่าจักเกิดมิคสัญญีว่าวันนนคนนนจะมีการเข่นฆ่ากัน โดย
                                                                               ั้
               บอกก่อนล่วงหน้าเป็นเวลา ๗ วัน ผู้ใดมีคุณธรรมแลสติป๎ญญาก็พากันจดจําหลีกหนีไปเสียได้เพียงแต   ่
               เล็กน้อย เข้าไปคอยอาศัยอยู่ในถ้ําภูผากลางปุาเขา เหลือแต่เหล่าพวกหยาบช้าพากันไม่เชื่อถือใน

               คําพูดของเทพยดาก็พากันเยาะเย้ยถากถางเข้ารุมกระทําอันตรายหมายจะเข่นฆ่า เทพยดาเจ้าก็เร้น

               กายหายวับกลับวิมานอันเป็นสถานที่อยู่แห่งตน



                      ครั้นเมื่อถึงวันกําหนดคนทั้งหลายพากันหิวกระหายออกหากินเป็นปกติวิสัย ครั้นเห็นหน้ากัน
                                                      ้
                                                           ้
               ไซร้ก็เข้าใจว่าเป็นเนื้อเป็นปลา จับอะไรไดเป็นตนว่าท่อนไม้ผุก็กลับกลายเป็นหอกดาบอาวุธศาสตรา
               เข้าทําการเข่นฆ่าไล่ทิ่มแทงกันจนล้มตายเป็นอันมากเหลือจะประมาณได้กลายเป็นมิคสัญญีกลียุค
               วุ่นวายเป็นหนักหนาจนเข่นฆ่ากันหมดสิ้น
   48   49   50   51   52   53   54   55   56   57   58