Page 44 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 44
40
17. ค ำชี้ขำดข้อพิพำทหมำยเลขแดงที่ 66/2561
ประเด็นข้อพิพำท : 1. ค ำเสนอข้อพิพำทเคลือบคลุมหรือไม่
2. ผู้เรียกร้องหรือผู้คัดค้ำนฝ่ำยใดเป็นฝ่ำยผิดสัญญำ
3. ผู้คัดค้ำนมีสิทธิบอกเลิกสัญญำหรือไม่
4. ผู้เรียกร้องมีสิทธิเรียกร้องค่ำงำนที่ท ำไปหรือไม่ เพียงใด
คณะอนุญำโตตุลำกำรได้พิจำรณำเรื่องนี้แล้ว มีค ำวินิจฉัยชี้ขำดดังนี้
ปัญหาวินิจฉัยตามประเด็นที่ ๑ ค าเสนอข้อพิพาทเคลือบคลุมหรือไม่
ในประเด็นนี้ตามข้ออ้างของผู้คัดค้านที่ว่า ค าเสนอข้อพิพาทของผู้เรียกร้องเคลือบคลุมเพราะไม่ได้
บรรยายรายละเอียดถึงเหตุใด ๆ เกี่ยวกับการส่งมอบงานแต่ละงวดตามสัญญาที่ท าให้ผู้คัดค้านเข้าใจและต่อสู้คดีได้
ทั้ง ๆ ที่เป็นรายละเอียดที่มีอยู่และผู้เรียกร้องทราบดีสามารถบรรยายได้แต่หาได้บรรยาย ผู้คัดค้านจึงมิอาจสู้คดีได้ ขอให้
ยกค าเสนอข้อพิพาทนั้น คณะอนุญาโตตุลาการพิจารณาแล้วเห็นว่า ค าเสนอข้อพิพาทที่ยื่นต่อสถาบันอนุญาโตตุลาการ
ระหว่างห้างหุ้นส่วนจ ากัด ช. (ผู้เรียกร้อง) และองค์การบริหารส่วนต าบล ท. (ผู้คัดค้าน) มีการกล่าวถึงประเด็นข้อพิพาท
แจ้งชัดที่เกี่ยวกับนิติสัมพันธ์ทางสัญญาจ้างระหว่างผู้เรียกร้องและผู้คัดค้าน ในโครงการขุดลอกแหล่งน้ าและผู้เรียกร้อง
มีข้อเรียกร้องเพื่อให้ผู้คัดค้านรับผิดชอบตามสัญญาชัดเจนเพียงพอที่อนุญาโตตุลาการรับพิจารณาวินิจฉัยได้ ตามประมวล
กฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งมาตรา ๑๗๒ วรรค ๒ ดังนี้จึงวินิจฉัยว่า ค าเสนอข้อพิพาทไม่เคลือบคลุม
ปัญหาวินิจฉัยประเด็นที่ ๒ ผู้เรียกร้องหรือผู้คัดค้าน ฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดสัญญา
ตามสัญญาที่พิพาท โครงการขุดลอกแหล่งน้ า มีประเด็นข้อพิพาทการผิดสัญญางานว่าจ้างที่พิพาทกัน
ฟังได้ว่ามีงานว่าจ้างที่พิพาทกัน ๒ ส่วน คือ ส่วนของงานขุดลอกหนองน้ าตามสัญญา และส่วนของงานน าดินที่ขุดลอกได้
ไปถมไว้ในบริเวณที่ก าหนดในสัญญา อนุญาโตตุลาการวินิจฉัย ดังนี้ ในการพิเคราะห์ถึงงานที่ว่าจ้างตามสัญญา โครงการ
ขุดลอกแหล่งน้ า การที่ผู้คัดค้านกล่าวอ้างงานที่ว่าจ้างตามโครงการขุดลอกแหล่งน้ าฯตามสัญญาต้องได้ปริมาณดินขุด
ไม่น้อยกว่า ๒๙๙,๐๓๒.๕๐ ลบ.ม. เท่านั้น โดยไม่มีการน าสืบข้อเท็จจริงงานที่ว่าจ้างเป็นไปตามแบบก่อสร้างหรือไม่
ผู้คัดค้านน าสืบข้อเท็จจริงมุ่งเน้นปริมาณดินขุด โดยอ้างถึงใบยื่นข้อเสนอการประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ว่าเป็น
การแสดงอย่างชัดเจนว่าผู้เรียกร้องรับรู้ว่างานขุดดินตามสัญญาต้องได้ไม่น้อยกว่า ๒๙๙,๐๓๒.๕๐ ลบ.ม. นั้น ในการ
พิเคราะห์ถึงสถานะทางกฎหมายของเอกสาร “ใบยื่นข้อเสนอการประมูลจ้างฯ” หรือใบยื่นข้อเสนอการประกวด
ราคาจ้างฯ ซึ่งเป็นเอกสารแนบท้ายสัญญาที่สัญญาข้อ ๒ ให้ถือเป็นส่วนหนึ่งของข้อสัญญาด้วยนั้น เห็นว่า ใบยื่นข้อเสนอ
การประกวดราคาจ้างฯเป็นเพียงค ายื่นข้อเสนอของผู้เรียกร้องฝ่ายเดียว เมื่อมีสัญญาเกิดขึ้น สัญญาจะมีความส าคัญยิ่งกว่า
ใบยื่นข้อเสนอการประกวดราคาจ้างฯที่เป็นการแสดงเจตนาฝ่ายเดียว เพราะสัญญาเป็นข้อตกลงของคู่สัญญาสองฝ่าย
ซึ่งสอดคล้องกับที่สัญญาข้อ ๒ วรรคสอง ก าหนดไว้ว่า“ความในเอกสารแนบท้ายสัญญาที่ขัดแย้งกับข้อความในสัญญานี้
ให้ใช้ข้อความในสัญญานี้บังคับ และในกรณีที่เอกสารแนบท้ายสัญญาขัดแย้งกันเอง ผู้รับจ้างจะต้องปฏิบัติตามค าวินิจฉัย
ของผู้ว่าจ้าง”
การที่ผู้คัดค้านน าสืบยึดแต่ความส าเร็จของงานที่ว่าจ้างอยู่ที่ปริมาณดินขุดในหนองน้ าทั้ง ๔ ไม่น้อยกว่า
๒๙๙,๐๓๒.๕๐ ลบ.ม. ซึ่งเป็นจ านวนรวมของปริมาณดินขุดที่ก าหนดในงวดเงินแต่ละงวดตามแต่ละหนองน้ า โดยอ้างว่า
เป็นเนื้องานตามสัญญาที่ก าหนดไว้ในสัญญา ข้อ ๔ นั้น เมื่อพิเคราะห์สัญญาข้อ ๔ นี้ หัวข้อของสัญญาก าหนดไว้ว่า
“ค่าจ้างและการจ่ายเงิน (สัญญาเป็นราคาเหมารวม)” จึงเห็นว่า การระบุปริมาณดินขุดลอกในข้อสัญญาข้อนี้มี