Page 45 - 50 คำถาม เกี่ยวกับการอนุญาโตตุลาการ
P. 45
41
วัตถุประสงค์ส าหรับการจ่ายเงินค่าจ้างเป็นงวดๆ โดยก าหนดเงินหนึ่งงวดเท่ากับการปฏิบัติงานขุดลอกให้เสร็จเรียบร้อย
ที่ละหนองน้ า กล่าวคือ เงินค่าจ้างงวดที่ ๑ ส าหรับการปฏิบัติงานเรียบร้อยของขุดลอกหนองที่ ๑ งวดถัดไปงวดที่ ๒
ส าหรับการปฏิบัติงานเรียบร้อยของขุดลอกหนองที่ ๒ เป็นล าดับๆไปตามก าหนดระยะเวลาที่ต่อเนื่องกัน การที่มีการระบุ
ปริมาณดินขุดแต่ละหนองน้ าเป็นเพียงการประมาณการ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ของการจ่ายเงินค่าจ้างจึงมีการระบุว่า
“เป็นราคาเหมารวม” กล่าวคือ เป็นราคาเหมาจ่าย แม้จะมีปริมาณดินขุดลอกมากกว่า จ านวนเงินค่าจ้างจะไม่มีการเพิ่ม
ให้ผู้ว่าจ้างมีหน้าที่จ่ายค่าจ้างให้ตามที่ก าหนดไว้เท่านั้น
การวินิจฉัยถึงประเด็นการผิดสัญญาส่วนของงานน าดินที่ขุดลอกได้ไปถมไว้ในบริเวณที่ก าหนดในสัญญา
นั้น พิเคราะห์ตาม “แบบก่อสร้าง”ในเอกสารแนบท้ายสัญญา มีการก าหนดสถานที่ที่ผู้รับจ้างต้องน า“ดินที่ได้จากการขุด
ลอกหนองน้ าหรือล าห้วยให้น ามาถม ที่สาธารณประโยชน์ ท าเลเลี้ยงสัตว์โนน ก . แปลงที่ ๒”
ผู้เรียกร้องยอมรับว่า ปริมาณคิวดินที่ขุดได้จากหนองน้ าทั้งหมด ๑๘๖,๘๘๒ ลบ.ม. และได้น าไปถมโรงเรียน และไปถมวัด
ตามที่ผู้ใหญ่บ้านและประชาคมชาวบ้าน (อบต.)ให้ทิ้งที่สาธารณประโยชน์ของชาวบ้านในหมู่บ้านก่อน ไม่ได้น าไปทิ้งที่
ท าเลเลี้ยงสัตว์โนนระเวียงตามระบุในสัญญา ซึ่งข้อเท็จจริงนี้ตรงกับที่ผู้ควบคุมงานของผู้ค้านได้มีการท าบันทึกไว้ในบันทึก
สภาพการปฏิบัติงานของผู้รับจ้างที่มีการรายงานผลการก่อสร้างประจ าสัปดาห์ตั้งแต่ครั้งที่ ๔ จนถึงครั้งที่ ๑๔ ให้แก่
ประธานกรรมการตรวจการจ้างทราบ ว่ามีการน าดินที่ขุดไปถมที่สระน้ าหลังโรงเรียน ไปถมลานหน้าวัด
ไปถมเกาะที่กรมศิลปากรขอสงวนไว้และถมท าถนนทางเข้าเกาะสงวน และในบันทึกดังกล่าวในช่องตารางของปัญหา
อุปสรรค การแก้ไข และอื่น ๆ มีข้อความว่า “ได้พูดคุยและทักท้วงสั่งงานให้ผู้รับจ้างน าดินที่ขุดได้ไปทิ้งท าเลเลี้ยงสัตว์
เพื่อที่จะได้ตรวจเช็คคิวดินขุดได้ง่าย แต่ผู้รับจ้างก็ไม่ท าตามที่สั่งไว้” เห็นว่าการที่ผู้เรียกร้องน าดินไปถมในบริเวณอื่น
ที่ไม่ใช่ท าเลเลี้ยงสัตว์ตามที่มีการทักท้วงจากผู้คัดค้านนั้น แต่อย่างไรก็ดี พื้นที่ที่ผู้เรียกร้องน าดินที่ขุดได้ไปถมให้นั้นฟังได้ว่า
เป็นที่สาธารณะ อันเป็นพื้นที่หนึ่งที่สัญญาก าหนดให้มีการน าดินที่ได้จากการขุดลอกหนองน้ าหรือล าห้วยให้น ามาถมพื้นที่
“ที่สาธารณประโยชน์”ได้ด้วย
ในประเด็นผู้เรียกร้องหรือผู้คัดค้าน ฝ่ายใดเป็นฝ่ายผิดสัญญานี้ อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยว่า
ผู้เรียกร้องไม่ผิดสัญญาที่พิพาทกันทั้งในส่วนของงานขุดลอกหนองน้ าที่ได้ท าตาม “แบบก่อสร้าง”และทั้งส่วนของงาน
น าดินที่ขุดลอกได้ไปถมไว้ในบริเวณที่ที่เป็นที่สาธารณประโยชน์ ผู้เรียกร้องได้ปฏิบัติตามสัญญา ผู้คัดค้านจึงเป็นฝ่ายผิด
สัญญาที่ไม่รับงานและไม่ช าระค่าจ้างตามสัญญาให้ผู้เรียกร้อง
ปัญหาวินิจฉัยประเด็นที่ ๓ ผู้คัดค้านมีสิทธิเลิกสัญญาหรือไม่
ในการพิจารณาถึงการบอกเลิกสัญญาของผู้คัดค้านที่บอกเลิกสัญญาก่อนครบก าหนดเวลาระยะเวลา
การปฏิบัติงานตามสัญญา ผู้คัดค้านได้อ้างสิทธิบอกเลิกสัญญาในฐานะผู้ว่าจ้าง ที่ก าหนดให้ผู้เรียกร้องต้องเริ่มท างาน
ที่รับจ้างภายในวันที่ ๓๐ กรกฎาคม ๒๕๕๘ โดยจะต้องท างานให้แล้วเสร็จสมบูรณ์ภายในวันที่ ๗ มีนาคม ๒๕๕๙
รวมระยะเวลาด าเนินการรวม ๒๒๐ วัน ถ้าผู้เรียกร้องมิได้ลงมือท างานภายในก าหนดเวลา หรือไม่สามารถท างาน
ให้แล้วเสร็จตามก าหนดเวลา หรือมีเหตุให้เชื่อได้ว่าผู้รับจ้างไม่สามารถท างานให้แล้วเสร็จภายในก าหนดเวลา หรือผู้รับจ้าง
ท าผิดสัญญาข้อใดข้อหนึ่ง หรือตกเป็นผู้ล้มละลาย หรือเพิกเฉยไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของคณะกรรมการตรวจการจ้าง
หรือผู้ควบคุมงาน ผู้คัดค้านมีสิทธิจะบอกเลิกสัญญานี้ได้ และมีสิทธิจ้างผู้รับจ้างรายใหม่เข้าท างาน
ของผู้เรียกร้องให้ลุล่วงไปด้วย
การที่ผู้คัดค้านอ้างถึงการที่ผู้เรียกร้องได้มีหนังสือแจ้งเข้าด าเนินงานตามสัญญาในวันที่ ๑๑ สิงหาคม
๒๕๕๘ จะเป็นกรณีของ “ผู้เรียกร้องมิได้ลงมือท างานภายในก าหนดเวลา” อันเป็นเหตุหนึ่งที่ก าหนดให้สิทธิเลิกสัญญานั้น
วินิจฉัยว่าในการตีความสัญญา ข้อความในสัญญาข้อนี้หมายความถึงการที่ผู้รับจ้างไม่ลงมือหรือไม่เข้ามาท างาน