Page 1105 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1105

๑๐๙๓








                        ๔.๒ พระรำชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภำพผู้ติดยำเสพติดพ.ศ. ๒๕๔๕


                        มาตรา ๑๙ แก้ไข โดยบัญญัติข้อความใหม่ว่า “ผู้ใดต้องหาว่ากระท าความผิดฐานเสพยาเสพติดและ


                 ความผิดที่เกี่ยวกับยาเสพติดทุกประเภท ไม่เกินปริมาณที่ก าหนดไว้ในกฎกระทรวง ให้ศาลมีอานาจที่จะส่งตัว
                 ผู้นั้นไปตรวจพิสูจน์ เพื่อแก้ไข บ าบัดฟื้นฟูได้ ให้พนักงานสอบสวนน าตัวผู้ต้องหาไปศาล...”

                        แก้ไขกฎกระทรวงว่าด้วยการก าหนดลักษณะ ชนิด ประเภทและปริมาณของยาเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๖

                 ในข้อ ๒ โดยก าหนดให้ เพิ่มปริมาณยาเสพติดแต่ละชนิดอีกจ านวน ๕ เท่าจากของเดิม

                                                                                    ่
                        หลังจำกผู้เขียนได้จัดท ำบทควำมฉบับนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว อยู่ระหวำงกำรน ำเสนอบทควำมต่อ
                 สถำบันพัฒนำข้ำรำชกำรฝ่ำยตุลำกำร ร่ำงประมวลกฎหมำยยำเสพติดได้ผ่ำนกำรพิจำรณำของทั้งสองสภำ

                          ั
                        ื่
                 แล้ว เมอวนที่ ๒๔ สิงหำคม ๒๕๖๔ อยู่ระหวำงกำรประกำศใช้บังคับเป็นกฎหมำยต่อไป ซึ่งประมวล
                                                          ่
                 กฎหมำยดังกล่ำวให้ยกเลิกพระรำชบัญญัติยำเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และพระรำชบัญญัติฟื้นฟู
                 สมรรถภำพผู้ติดยำเสพติด พ.ศ. ๒๕๔๕ ด้วย ดังนั้น ข้อเสนอของผู้เขียนในส่วนนี้จึงตกไปด้วย
                                                                                                44


                        ๔.๓ ประมวลกฎหมำยวิธีพิจำรณำควำมอำญำ แก้ไข โดยให้เพิ่ม


                        มาตรา ๑๗๖/๑ ในคดีความผิดที่มีอตราโทษจ าคุกอย่างสูงไม่เกิน ๑๕ ปี จะมีโทษปรับด้วยหรือไม่ก็
                                                      ั
                                          ิ
                 ตาม หากศาลเห็นสมควรโดยพจารณา อายุ ประวัติ ความประพฤติ สติปัญญา การศึกษาอบรม สุขภาพ ภาวะ
                                                                                  ั
                                                                                ื่
                 แห่งจิต นิสัย อาชีพและสิ่งแวดล้อมของผู้นั้นหรือสภาพความผิดหรือเหตุอนอนควรปราณีแล้ว เห็นเป็นการ
                                                        ิ
                 สมควร ศาลมีอ านาจที่จะน ามาตรการแทนการพพากษาตามบทบัญญัติ ดังต่อไปนี้ มาใช้แก่จ าเลยได้
                        มาตรา ๑๗๖/๒ ในกรณีที่ศาลเห็นว่าตามพฤติการณ์แห่งคดียังไม่สมควรจะมีค าพพากษา เมื่อศาล
                                                                                             ิ
                 สอบถามผู้เสียหายแล้ว ศาลอาจมีค าสั่งให้ปล่อยตัวจ าเลยชั่วคราวโดยไม่มีประกัน หรือมีประกัน หรือมีประกัน

                 และหลักประกันด้วยก็ได้ โดยก าหนดเงื่อนไข เช่น ให้จ าเลยไปรายงานตัวต่อพนักงานคุมประพฤติ หรือ

                                                                 ู
                             ื่
                 เจ้าพนักงานอน หรือให้จ าเลยเข้ารับการแก้ไขบ าบัดฟนฟ รับค าปรึกษาแนะน า เข้าร่วมกิจกรรมบ าบัดหรือ
                                                               ื้
                 กิจกรรมทางเลือก หรือให้ใช้วิธีการเพอความปลอดภัย ภายในระยะเวลาที่ศาลเห็นสมควรแต่ต้องไม่เกินกว่า ๕
                                                ื่
                 ปี เว้นแต่จ าเลยหลบหนี ให้อายุความเป็นอันสะดุดหยุดลง






                        44  เพิ่มเติมข้อมูล ณ วันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๔ วันน าเสนอบทความต่อสถาบันพัฒนาข้าราชการฝ่ายตุลาการ ศาลยุติธรรม
   1100   1101   1102   1103   1104   1105   1106   1107   1108   1109   1110