Page 1107 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1107

๑๐๙๕


                                                                             ื้
                                     ื้
                                                                                ู
                 เสพติด โดยมีการแบ่งพนที่ให้ผู้ติดยาเสพติดที่ศาลมีค าสั่งให้ส่งตัวมาฟนฟสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติดแบบ
                 ควบคุมตัวอยู่ในศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด โดยห้ามมิให้มีการปะปนกับผู้ต้องโทษในคดีอื่นๆ

                        นอกจากนี้ ผู้เขียนขอเสนอแนวคิดในการเปลี่ยนเรือนจ าทั่วประเทศ แบ่งพื้นที่ใช้เป็นสถานแก้ไขบ าบัด
                     ู
                 ฟนฟผู้กระท าความผิดซึ่งมีลักษณะคล้ายกับสถานพนิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนในศาลเยาวชนและ
                  ื้
                                                              ิ
                 ครอบครัวจังหวัดต่างๆ และศูนย์ฝึกและอบรมผู้กระท าความผิด ซึ่งมีลักษณะคล้ายศูนย์ฝึกและอบรบเด็กและ

                 เยาวชน ส่วนผู้ที่กระทาความผิดร้ายแรงที่ถูกลงโทษจ าคุกควรใช้เรือนจ าประจ าภาคนั้นๆหรือเรือนจ ากลางบาง
                 ขวาง เรือนจ ากลางเขาบิน ที่มีความมั่นคงสูงเป็นสถานที่จ าคุกผู้กระท าความผิด


                        ๔.๔ ข้อเสนอแนะอื่นๆ


                             ื่
                        ๑. เพอให้แนวคิดในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและการลดปัญหาอาชญากรรมเกิดผลสัมฤทธิ์ยิ่งขึ้น
                                                      ื่
                 ส านักงานศาลยุติธรรมควรตั้งคณะท างานเพอศึกษารูปแบบการลงโทษผู้กระท าความผิดที่เหมาะสมเพอเป็น
                                                                                                       ื่
                                                 ั
                 การแก้ไขบ าบัดฟื้นฟูผู้กระท าความผิดอนจะก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้กระท าความผิด เช่น การก าหนดมาตรการ
                          ิ
                 แทนการพพากษาคดีหรือการเปลี่ยนโทษจ าคุกเป็นส่งตัวผู้กระท าความผิดไปฝึกและอบรม อนเป็นรูปแบบการ
                                                                                             ั
                 เบี่ยงเบนคดีของศาลอย่างหนึ่ง และให้คณะท างานได้ไปศึกษาดูงานเกี่ยวกับกระบวนการยุติธรรมที่ประเทศ

                                                                                                     ื่
                 เนเธอร์แลนด์ซึ่งมีแนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดและปัญหาอาชญากรรมอย่างเป็นรูปธรรมเพอน ามา
                 ศึกษาและปรับใช้ให้เข้ากับสภาพสังคมในประเทศไทยต่อไป

                                                                                           ิ
                        ๒. ก าหนดหลักเกณฑ์การน ามาตรการเบี่ยงเบนคดีและมาตรการแทนการพพากษาคดีมาใช้แก่
                 ผู้กระท าความผิด โดยเปลี่ยนแนวทางในการลงโทษใหม่ เป็นเน้นการลงโทษในทางทรัพย์สินหรือในทาง

                                               ิ
                 ปกครอง ส่วนการลงโทษจ าคุกควรพจารณาใช้กับความผิดที่มีอตราโทษสูง ความผิดที่เป็นภัยร้ายแรงต่อสังคม
                                                                     ั
                 คดีอกฉกรรจ์ ส่วนความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดควรพจารณาใช้กับกรณีเป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ มิใช่ผู้ค้าราย
                                                           ิ
                     ุ
                 ย่อยซึ่งมีเป็นจ านวนมาก เพื่อเป็นการแยกบุคคลที่เป็นอันตรายดังกล่าวออกจากสังคม

                        กรณีความผิดฐานอนๆ อาจใช้รูปแบบตามที่บัญญัติไว้ในพระราชบัญญัติศาลเยาวชนและครอบครัว
                                        ื่
                 และวิธีพจารณาคดีครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๓ มาตรา ๙๐ มาตรา ๑๓๒ และมาตรา ๑๔๒ (๑) ตามที่ผู้เขียน
                        ิ
                 น าเสนอมาปรับใช้กับผู้กระท าความผิดที่เป็นผู้กระท าความผิดทั่วไป โดยก าหนดรูปแบบและสถานที่ในการ

                 แก้ไขบ าบัดฟนฟดังเช่นคดีที่เด็กและเยาวชนกระท าความผิด ทั้งนี้ในความผิดอาญาที่มีผู้เสียหาย ควรให้
                            ื้
                               ู
                 ผู้เสียหายเข้ามามีส่วนร่วมในกระบวนการยุติธรรมเชิงสมานฉันท์
   1102   1103   1104   1105   1106   1107   1108   1109   1110   1111   1112