Page 1108 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1108
๑๐๙๖
ื่
๓. แนวทางในการลงโทษของศาลเพอลดปริมาณผู้ต้องขังในเรือนจ า ควรใช้มาตรการอนแทนการ
ื่
ลงโทษจ าคุก ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของสหประชาชาติในการเลี่ยงโทษจ าคุกโดยใช้มาตรการอนแทนเพอลด
ื่
ื่
จ านวนผู้กระท าความผิดที่ไม่มีความจ าเป็นต้องเข้าไปถูกจ าคุกในเรือนจ า เช่น ความผิดที่ไม่ได้เป็นอนตรายต่อ
ั
ชุมชน ความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก ความผิดฐานประมาท ความผิดเล็กน้อย ซึ่งมาตรการที่จะ
ั
น ามาใช้ ยกตัวอย่างเช่นประเทศสหรัฐอเมริกาและประเทศองกฤษ มีการน ามาตรการคุมประพฤติแบบเข้มข้น
การฝึกอาชีพ การอบรมมาตรฐานศีลธรรมในชุมชนแทนการลงโทษจ าคุก การห้ามเข้าเขตก าหนด การให้
ุ
ิ
ท างานบริการสังคม การควบคุมผู้กระท าความผิดไว้ในที่อยู่อาศัยโดยใช้อปกรณ์อเล็กทรอนิกส์ติดตามตัวมาใช้
แทนการลงโทษจ าคุก การใช้เงื่อนไขการปล่อยตัวผู้กระท าความผิดออกจากเรือนจ าก่อนครบก าหนด การ
เปลี่ยนวิธีคิดจากการใช้กระบวนการหลักมาใช้กระบวนการยุติธรรมแบบสมานฉันท์ การส่งเสริมการท างาน
ร่วมกับชุมชนโดยให้ชุมชนเข้ามามีส่วนร่วมในการสอดส่องดูแลและยอมรับผู้พ้นโทษมากขึ้น
๔. น าบทบัญญัติการรอการลงโทษหรือรอการก าหนดโทษตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ๕๖
ตามค าแนะน าของประธานศาลฎีกามาใช้อย่างเป็นรูปธรรม แต่ในทางปฏิบัติมีข้อขัดข้อง คือ ตามบัญชี
มาตรฐานการลงโทษหรือยี่ต๊อกของศาล ไม่ได้เปิดช่องให้มีการใช้เงื่อนไขการรอการก าหนดโทษ หากมี
ิ
ผู้พพากษาท่านใดใช้อาจจะเป็นที่ครหาว่ามีวัตถุประสงค์อนแอบแฝงหรือไม่ เพราะบางคดีหากมีพฤติการณ์ซึ่ง
ื่
หากน าวิธีการรอการก าหนดโทษมาใช้จะก่อให้เกิดความเป็นธรรมในคดี ดังนั้น หากมีการแก้ไขข้อขัดข้อง
ดังกล่าวโดยให้ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลในแต่ละศาลออกเป็นค าแนะน าว่า สามารถใช้วิธีการรอการก าหนดโทษใน
ิ
คดีประเภทใดได้บ้าง ก็จะท าให้ผู้พพากษามีความกล้าในการใช้มาตรการรอการก าหนดโทษมากขึ้น และบาง
ื่
กรณีอาจน าก าไลอเล็กทรอนิกส์มาใช้เพอก าหนดสถานที่อยู่หรือสถานที่ห้ามเข้าไปหรืออาจให้มีการตั้งผู้ก ากับ
ิ
ดูแลคอยควบคุมสอดส่องพฤติกรรมของผู้ที่รอการก าหนดโทษหรือรอการลงโทษด้วยก็ได้
๕. ควรเปลี่ยนแนวความคิดในการแก้ไขปัญหาผู้กระท าความผิด กรณีผู้กระท าความผิดในข้อหาที่ไม่
ร้ายแรง ควรมุ่งเน้นโทษทางทรัพย์สินให้มากขึ้นและหากผู้กระท าความผิดไม่มีเงินช าระค่าปรับ ก็สามารถ
ท างานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับได้ ทั้งนี้การท างานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์
ควรเปิดกว้าง ไม่ควรมีเงื่อนไขในเรื่องของข้อหาที่กระท าความผิดว่า หากเป็นคดียาเสพติดในข้อหาจ าหน่าย
แล้วจะไม่สามารถท างานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์ได้ เพราะความผิดในข้อหาจ าหน่ายยาเสพติดบาง
กรณีผู้กระท าความผิดที่มีจ านวนยาเสพติดไม่มากนัก มิใช่ผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ หากให้โอกาสบุคคลดังกล่าว
น่าจะก่อให้เกิดความเป็นธรรมมากขึ้น

