Page 112 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 112

๙๙




                     ิ
               มีข้อพจารณาในเรื่องของการตีความซึ่งควรจะต้องให้สอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการบัญญัติกฎหมายที่ค านึงถึง
                                                               ื่
               บทบาทของผู้กระท าความเป็นผิดหลักว่า “การกระท าเพอการค้า” ควรจะหมายถึง การกระท าเพอหาก าไรเป็น
                                                                                                  ื่
               ปกติธุระหรือระดับเชิงพาณิชย์ หรือไม่ และ “การก่อให้เกิดการแพร่กระจายไปในกลุ่มประชาชน” นั้น
               มีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอย่างไร รวมถึง “การกระท าให้เกิดผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐหรือความปลอดภัย
               ของประชาชนทั่วไป” ตามวรรคสาม (๒) นั้น มีความหมายครอบคลุมการกระท าในลักษณะอย่างไร เนื่องจากไม่มี

               การก าหนดบทนิยามเอาไว้ จึงอาจเกิดปัญหาการลักลั่นในการตีความที่แตกต่างกัน

                           นอกจากนี้ การยกเลิกข้อสันนิษฐานตามกฎหมายที่เป็นผลร้ายแก่จ าเลยและการแก้ไขบทก าหนดโทษ
               ฐานผลิต น าเข้า ส่งออก จ าหน่ายหรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษหรือวัตถุออกฤทธิ์ ที่มีอตราโทษขั้นสูง
                                                                                                 ั
               แตกต่างจากอัตราโทษขั้นสูงตามพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และพระราชบัญญัติวัตถุทออกฤทธิ์
                                                                                                     ี่
                                                    ิ
               ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ ยังมีข้อพจารณาในเรื่องที่กฎหมายที่ใช้ในขณะกระท าความผิดแตกต่างกับ
               กฎหมายที่ใช้ในภายหลังการกระท าความผิด ซึ่งต้องใช้กฎหมายในส่วนที่เป็นคุณแก่ผู้กระท าความผิดไม่ว่าทางใด

               ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓ โดยในส่วนของการยกเลิกข้อสันนิษฐานตามกฎหมายนั้น
               ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด มาตรา ๒๑ บัญญัติว่า

                           “ให้บทบัญญัติที่ให้สันนิษฐานว่าเป็นการกระท าเพอจ าหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษตามพระราชบัญญัติ
                                                                    ื่
               ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และเพื่อขายซึ่งวัตถุออกฤทธิ์ตามพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท

               พ.ศ. ๒๕๕๙ ซึ่งถูกยกเลิกโดยพระราชบัญญัตินี้ยังคงมีผลใช้บังคับแก่คดีที่ศาลชั้นต้นมีค าพพากษาแล้วก่อนวันที่
                                                                                           ิ
               ประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ แล้วแต่กรณี จนกว่าคดีจะถึงที่สุด
                           คดีซึ่งค้างพิจารณาอยู่ในศาลชั้นต้นอยู่ในวันก่อนวันที่ประมวลกฎหมายยาเสพติดท้ายพระราชบัญญัติ

               นี้ใช้บังคับ ถ้าคู่ความฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือทั้งสองฝ่ายยื่นค าแถลงขอสืบพยานหลักฐานเพมเติมว่าการกระท าของ
                                                                                         ิ่
                                                  ื่
                                    ื่
               จ าเลยเป็นการกระท าเพอจ าหน่ายหรือเพอขายหรือไม่ แล้วแต่กรณี ก็ให้ศาลสืบพยานหลักฐานเพมเติมได้ตามที่
                                                                                                 ิ่
               เห็นสมควร”
                                                                                               ั
                           แต่ในส่วนของบทก าหนดโทษตามร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ซึ่งมีการแก้ไขอตราโทษขั้นสูงใน
               ส่วนที่เป็นคุณกว่าพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและ

               ประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙ ย่อมจะเป็นผลให้จ าเลยที่ยังไม่ได้รับโทษหรือก าลังรับโทษอยู่ยื่นค าร้องขอให้ก าหนดโทษใหม่
               ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา ๓ (๑) เป็นจ านวนมาก ในส่วนความผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพอจ าหน่าย
                                                                                                    ื่
                     ื่
               หรือเพอขายเป็นความผิดฐานมีไว้ในครอบครองอยู่ในตัว จึงยังคงเป็นความผิดตามร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด
               อนเป็นความผิดตามที่บัญญัติในวรรคหนึ่ง ส่วนความผิดของจ าเลยแต่ละรายจะเข้ากรณีตามวรรคสองหรือวรรค
                 ั
               สามหรือไม่ และอยู่ในหลักเกณฑ์การก าหนดโทษใหม่ได้หรือไม่ อย่างไรนั้น หากมีการยื่นค าร้องขอให้ก าหนดโทษ

               ใหม่จะมีปัญหาที่จะต้องพิจารณาในประการนี้เป็นส าคัญ
   107   108   109   110   111   112   113   114   115   116   117