Page 110 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 110
๙๗
ื่
ความผิดเพื่อจ าหน่ายหรือเพอขายและก าหนดบทลงโทษที่หนักขึ้น แต่การใช้ข้อสันนิษฐานความรับผิดที่ใช้ปริมาณ
ื่
ยาเสพติดเป็นเกณฑ์ในการก าหนดเงื่อนไขของข้อสันนิษฐานเพอแยกผู้เสพกับผู้จ าหน่ายออกจากกันในลักษณะ
เช่นนี้ มีผลบังคับแก่ผู้กระท าความผิดทุกคนที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดในบทบาทที่ลดหลั่นไป
ตามล าดับ แต่ไม่สามารถมีผลบังคับได้จริงกับผู้กระท าความผิดที่เป็นผู้ค้ารายใหญ่ในระดับที่มีความส าคัญอย่าง
แท้จริง กล่าวคือ ผู้ถูกจับกุมส่วนใหญ่เป็นผู้เสพ ผู้ครอบครองยาเสพติด นักค้ารายย่อย มือขน/มือล าเลียง
ซึ่งจัดเป็นพวกแรงงานยาเสพติดที่จะมีการทดแทนบุคคลใหม่ ๆ ได้ตลอดเวลา แต่การปราบปรามโครงสร้างการค้า
ยาเสพติดรายส าคัญและองค์กรอาชญากรรม ยังท าได้น้อย การก าหนดบทลงโทษที่ได้สัดส่วนและเหมาะสมควร
มุ่งเน้นการใช้มาตรการทางกฎหมายแก่ผู้ค้าและเครือข่ายยาเสพติดรายใหญ่ที่สร้างความเสียหายให้กับสังคม
ื่
โดยเน้นไปที่มาตรการยึดทรัพย์สินเพอใช้ท าลายโครงสร้างหรือเครือข่ายการค้ายาเสพติด และมุ่งเน้นมาตร
ื่
การแก้ไขฟื้นฟูผู้เสพหรือผู้ติดยาเสพติดเพอลดอุปสงค์ของยาเสพติดประกอบกัน การด าเนินคดียาเสพติดควรต้องมี
ิ
การพจารณาความผิดและบทลงโทษโดยดูจากพฤติการณ์และความร้ายแรงในการกระท าความผิดรวมถึงบทบาท
ของผู้กระท าความผิดแต่ละคนซึ่งควรได้รับโทษหนักเบาตามสัดส่วนความร้ายแรงและบทบาทของผู้กระท า
ความผิดมากกว่าที่จะก าหนดบทลงโทษโดยพิจารณาถึงปริมาณยาเสพติดเป็นหลัก ซึ่งการจะพิจารณาถึงพฤติการณ์
และความร้ายแรงรวมถึงบทบาทของผู้กระท าความผิดเช่นนั้นได้จะต้องมีการค้นหาข้อเท็จจริงหรือแสวงหา
พยานหลักฐานมาพสูจน์ถึงการกระท าความผิด การใช้ข้อสันนิษฐานความรับผิดเพอจ าหน่ายหรือเพอขายเป็นการ
ื่
ื่
ิ
ั
ิ
ลดหน้าที่ในการแสวงหาข้อเท็จจริงและรวบรวมพยานหลักฐานในการพสูจน์ความผิดของผู้ต้องหาหรือจ าเลย อน
เป็นเหตุส าคัญประการหนึ่งที่ท าให้ไม่มีข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบทบาทของผู้กระท าความผิดรวมถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวข้อง
กับตัวผู้กระท าความผิด ซึ่งมีผลต่อการน าไปสู่การก าหนดโทษที่ไม่ได้สัดส่วนและเหมาะสมกับผู้กระท าความผิด
แต่ละคน
แนวทางในการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด มีสาระส าคัญในส่วนที่
เกี่ยวข้องกับบทความผิดและบทก าหนดโทษในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ ซึ่งมีการยกเลิก
ื่
ื่
การใช้ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายว่าเพอจ าหน่ายหรือเพอขาย โดยมีการปรับปรุงบทนิยามค าว่า “จ าหน่าย”
ให้หมายความรวมถึงมีไว้เพอจ าหน่ายด้วย มีผลท าให้ไมมีความผิดฐานมีไว้ในครอบครองเพอจ าหน่ายโดยตรง คงมี
่
ื่
ื่
แต่ความผิดฐานมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติด ซึ่งถือเป็น “ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” ตามบทนิยาม
ที่ก าหนดว่า “ความผิดร้ายแรงเกี่ยวกับยาเสพติด” หมายความว่า ความผิดเกี่ยวกับการผลิต น าเข้า ส่งออก
ื่
จ าหน่าย หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติด เว้นแต่มีไว้ในครอบครองเพอเสพ และให้หมายความรวมถึงการสมคบ
สนับสนุน ช่วยเหลือ หรือพยายามกระท าความผิดดังกล่าวด้วย โดยมีการใช้ข้อสันนิษฐานตามกฎหมายแบบ
ไม่เด็ดขาดในทางที่เป็นคุณกับผู้ครอบครองในปริมาณเล็กน้อยตามที่ก าหนดในกฎกระทรวงว่าให้สันนิษฐานว่ามีไว้
ิ
ื่
ในครอบครองเพอเสพ แต่หากผู้ด าเนินคดีเห็นว่าบุคคลดังกล่าวมีพฤติการณ์ที่ไม่ใช่ผู้เสพยาเสพติดก็จะต้องพสูจน์
ให้เห็นถึงเจตนาของผู้นั้นว่าการมียาเสพติดในปริมาณเล็กน้อยดังกล่าวมิได้มีไว้เพอการเสพส าหรับตนเองเท่านั้น
ื่