Page 107 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 107

๙๔




               พระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ๒๕๒๒ และพระราชบัญญัติวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. ๒๕๕๙

               แล้ว เห็นว่า การก าหนดฐานความผิดที่เป็นการกระท าเพอจ าหน่ายหรือเพอขาย ล้วนแต่ก าหนดโทษไว้ค่อนข้าง
                                                                              ื่
                                                               ื่
               รุนแรงโดยเฉพาะการก าหนดอตราโทษขั้นต่ าที่สูงเพอข่มขู่ยับยั้งมิให้มีการกระท าความผิด อนเป็นการก าหนด
                                          ั
                                                            ื่
                                                                                              ั
               บทลงโทษที่ค านึงถึงเหตุทางภาวะวิสัยเป็นส าคัญ ซึ่งยังขาดมิติในการค านึงถึงเหตุทางอตวิสัยของผู้กระท าความผิด
                                                                                      ั
                                                                                ื่
               และการก าหนดบทลงโทษส าหรับความผิดที่เป็นการกระท าเพื่อจ าหน่ายหรือเพอขายในความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด
                                                                    ั
               ซึ่งล้วนแต่ก าหนดโทษไว้ค่อนข้างรุนแรงโดยเฉพาะการก าหนดอตราโทษขั้นต่ าที่สูง ย่อมเป็นการจ ากัดดุลพินิจของ
               ศาลในการลงโทษผู้กระท าความผิดที่มีบทบาทในการกระท าความผิดที่แตกต่างกันได้อย่างเหมาะสม
                           การก าหนดความผิดและบทลงโทษต่อผู้ที่เข้ามาเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ในฐานะผู้เสพและในฐานะ

               ผู้ค้า โดยแยกผู้กระท าความผิดไปตามปริมาณและประเภทของยาเสพติดที่พบในครอบครองหรือหลักฐานที่ชี้ว่ามี
                                                                   ิ
                                                                                                     ี
                                   ื่
                                                                                     ี
               เจตนาจ าหน่ายให้แก่ผู้อน ต่อมาในหลายประเทศพบว่า การพจารณาปัจจัยเหล่านี้เพยงอย่างเดียว ไม่เพยงพอกับ
                                                          ั
               การแยกผู้กระท าความผิดที่มีการกระท าที่แตกต่างกนในเรื่องการค้ายาเสพติดได้อย่างถูกต้อง เพราะระบบดังกล่าว
                           ิ
               น าไปสู่การพพากษาลงโทษที่ไม่ได้สัดส่วนต่อผู้กระท าความผิดคดียาเสพติดที่ไม่ร้ายแรง แต่ควรมุ่งบังคับใช้

               กฎหมายต่อผู้กระท าความผิดที่มีลักษณะเป็นกลุ่มองค์กรลักลอบค้ายาเสพติดหรือผู้ลักลอบค้ายาเสพติดที่มีอานาจ
               ควบคุมซึ่งเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์ที่แท้จริงของผลก าไรมหาศาลจากการค้ายาเสพติด รัฐจึงควรท าให้บทลงโทษ
               ส าหรับการกระท าความผิดคดียาเสพติดมีความเหมาะสม  นอกจากนี้บุคคลต่างๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องในฝ่ายผู้ค้า
                                                               ๒๖
               ยาเสพติดมีบทบาทที่แตกต่างกันไปตามล าดับขั้นความส าคัญ เช่น บุคคลที่มีบทบาทน า บทบาทส าคัญ หรือ

               บทบาทรอง เป็นต้น โดย “บทบาทน า” เช่น การสั่งหรือจัดให้มีการซื้อหรือขายในเชิงพาณิชย์ หรือมีความเชื่อมโยง
               ส าคัญถึงและมีอทธิพลต่อบุคคลอนในเครือข่ายหรือใกล้ชิดกับแหล่งต้นทางหรือความคาดหวังในการได้รับ
                                             ื่
                              ิ
               ผลประโยชน์ในทาการเงินจ านวนมาก “บทบาทส าคัญ” เช่น การมีหน้าที่ปฏิบัติงานหรือจัดการในเครือข่ายหรือ
                                                                         ิ
               เกี่ยวข้องกับบุคคลอนในการปฏิบัติงาน ไม่ว่าภายใต้การกดดัน อทธิพลการข่มขู่ หรือรางวัลหรือมีเงินหรือ
                                 ื่
                         ื่
               ประโยชน์อนจูงใจ ไม่ว่าจะท างานคนเดียวหรือไม่ หรือมีระดับการท างานที่รอบรู้และเข้าใจ ส่วน “บทบาทรอง”
               เช่น การมีบทบาทน้อยภายใต้การสั่งการ เกี่ยวข้องเนื่องจากถูกกดดัน บังคับ ข่มขู่ มีส่วนร่วมเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์
               หรือถูกแสวงประโยชน์ ไม่มีอทธิพลต่อผู้อยู่เหนือกว่าในเครือข่าย มีระดับการท างานที่รอบรู้หรือเข้าใจน้อยมาก
                                        ิ
               หรือถ้าท าเองก็เป็นเพยงผู้เสพ  ซึ่งกลุ่มผู้ด้อยโอกาสหรือมีความเปราะบางทั้งฐานะทางเศรษฐกิจและสังคม ส่วน
                                 ี
                                        ๒๗
               ใหญ่มีบทบาทเกี่ยวข้องในระดับล่างสุด และถูกจับกุมด าเนินคดีสูงสุด การที่บุคคลเหล่านี้ต้องถูกจับกุมคุมขัง



                       ๒๖  ส านักกิจการในพระด าริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา (๒๕๖๐). การสร้างความตระหนักเรื่อง : “การ

               พัฒนาอย่างยั่งยืน” กับ “หลักนิติธรรม” “โลกาภิวัฒน์” “ทุนนิยมสุดโต่ง” “การเสพติด” “ผู้ต้องขังล้นเรือนจ า” : “ปัญหาและ
               ทางออก”.  หน้า ๕๕ สืบค้นเมื่อ ๕ กรกฎาคม ๒๕๖๔ จาก โครงการก าลังใจ (kamlangjai.or.th)
                       ๒๗  โปรดดูหน้า ๙ ในกฎหมายของประเทศอังกฤษมีการก าหนดแนวทางการลงโทษผู้กระท าความผิดโดยมีการตรวจสอบ

               ถึงการกระท าของผู้กระท าความผิดว่าเป็นบุคคลที่มีบทบาทน า บทบาทส าคัญ หรือบทบาทรอง
   102   103   104   105   106   107   108   109   110   111   112