Page 1201 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 1201
๑๑๘๙
ราชอาณาจักรไทย อันเป็นมาตรการในการประกันสิทธิเสรีภาพของผู้ต้องหาหรือจ าเลย โดยผ่อนคลายการ
ิ
จ ากัดเสรีภาพในร่างกายของผู้ต้องหาหรือจ าเลยให้ได้รับอสรภาพชั่วคราว และเพอเปิดโอกาสให้ผู้ต้องหา
ื่
หรือจ าเลยได้แสวงหาพยานหลักฐานในการต่อสู้คดีได้อย่างเต็มที่ โดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
พุทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๙ วรรคแรก บัญญัติว่า “บุคคลไม่ต้องรับโทษอาญา เว้นแต่ได้กระท าการอน
ั
กฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระท านั้นบัญญัติเป็นความผิดและก าหนดโทษไว้ และโทษที่จะลงแก่บุคคลนั้น
จะหนักกว่าโทษที่บัญญัติไว้ในกฎหมายที่ใช้อยู่ในเวลาที่กระท าความผิดมิได้” ดังนั้นการควบคุมตัวบุคคล
ิ
ไว้ระหว่างการพจารณาคดีก่อนมีค าพพากษาถึงที่สุดว่ากระท าความผิดจริงย่อมเป็นการปฏิบัติต่อเขา
ิ
เสมือนเป็นผู้กระท าความผิดนั้นเอง ทั้งนี้โดยหลักของกฎหมายแล้ว ผู้ต้องหาหรือจ าเลยจะต้องไม่ถูก
ควบคุมตัว การควบคุมตัวบุคคลไว้เป็นข้อยกเว้นในกรณีที่จ าเป็นเท่านั้น กล่าวคือ หากไม่คุมตัวผู้ต้องหา
หรือจ าเลย จะท าให้เจ้าพนักงานหรือศาลไม่อาจด าเนินคดีต่อไปได้เพราะผู้นั้นจะหลบหนี จะไปยุงเหยิงกับ
ื่
พยานหลักฐานหรือจะไปก่อเหตุร้ายประการอน ดังนั้นหากไม่มีเหตุจ าเป็นดังกล่าวแล้วก็ต้องปล่อย
ื่
ชั่วคราวบุคคลนั้นไปทุกกรณี จะควบคุมตัวบุคคลนั้นไว้เพอสะดวกแก่การด าเนินคดีของเจ้าพนักงานหรือ
ศาลมิได้
ในทางปฏิบัติผู้พพากษาที่มีอานาจหน้าที่รับผิดชอบในการสั่งค าร้องขอปล่อยชั่วคราว ส่วนใหญ่
ิ
ใช้ดุลพินิจอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันและหลักประกันด้วยเสมอ หรือก าหนดวงเงินประกันหรือ
หลักประกันเคร่งครัดตามบัญชีมาตรฐานวงเงินประกันส าหรับการปล่อยชั่วคราวจนเกินไป ดังนั้นหาก
ิ
ิ
ผู้ต้องหาหรือจ าเลยเตรียมหลักประกันมาไม่พอ ผู้พพากษาก็มักจะใช้ดุลพนิจไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว
ี
โดยให้เหตุผลว่าหลักประกันไม่เพยงพอที่จะป้องกันการหลบหนีของผู้ต้องหาหรือจ าเลย โดยไม่ค่อยใช้
ดุลพินิจอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยไม่ต้องมีประกัน หรืออนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันแต่ไม่ต้อง
ิ
มีหลักประกัน แท้จริงแล้วเป็นการพจารณาสั่งที่ไม่สอดคล้องกับหลักการของกฎหมายในเรื่องการปล่อย
ชั่วคราว เพราะไปมุ่งเน้นที่หลักประกันเป็นส าคัญมากกว่าความจ าเป็นในการเอาตัวบุคคลไว้ในอานาจรัฐ
ท าให้ผู้ต้องหาหรือจ าเลยที่ยากจนต้องถูกจ ากัดสิทธิเสรีภาพไปโดยไม่เป็นธรรม ส่งผลให้ผู้ต้องหาหรือ
ิ
จ าเลยไม่ได้รับการคุ้มครองสิทธิทางอาญา ทั้งที่กฎหมายวิธีพจารณาความอาญาเป็นกฎหมายที่คุ้มครอง
ิ
สิทธิและเสรีภาพของบุคคล จึงท าให้เกิดปัญหาการใช้ดุลพนิจในการปล่อยชั่วคราวที่แตกต่างกัน หรือใน
กรณีที่ศาลชั้นต้นหรือศาลชั้นอทธรณ์มีค าพพากษาลงโทษจ าคุกจ าเลยไม่เกิน ๕ ปี เมื่อจ าเลยยื่นค าร้อง
ุ
ิ
ขอให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอทธรณ์หรือฎีกา แม้ว่าจ าเลยไม่เคยถูกคุมขังมาก่อนหรือได้รับการปล่อย
ุ
ชั่วคราวในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นหรือศาลชั้นอุทธรณ์ ส่วนใหญ่ผู้พิพากษาจะส่งค าร้องให้ศาลชั้น
อทธรณ์หรือศาลฎีกาพจารณาสั่ง ส่งผลให้จ าเลยถูกคุมขังโดยไม่จ าเป็นระหว่างที่รอฟงค าสั่งศาลชั้น
ั
ุ
ิ
อุทธรณ์หรือศาลฎีกา
การปล่อยชั่วคราวโดยยึดติดกับหลักประกันเป็นเงื่อนไขในการปล่อยชั่วคราวมากเกินไปย่อมเป็น
การสร้างภาระให้ผู้ต้องหาหรือจ าเลยที่มีฐานะยากจน ไม่อาจหาหลักประกันมาใช้ยื่นประกันตัวได้ท าให้

