Page 167 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 167

๑๕๔



                                                       ้
                                 ในกรณีที่มีการไต่สวนมูลฟองแล้ว ถ้าจ าเลยให้การรับสารภาพ ให้ศาลประทับฟองไว้
                                                                                                    ้
                                                    20
                 พิจารณา  (ป.วิ.อ. มาตรา ๑๖๒ วรรคสอง)
                                การไต่สวนมูลฟองคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์ จ าเลยจะมาฟงการไต่สวนหรือไม่มาก็ได้
                                             ้
                                                                                 ั
                                                    ้
                                                                                                ์
                 แต่จ าเลยมีสิทธิแต่งตั้งทนายความเพื่อซักคานพยานโจทก์ รวมทั้งในกรณีที่พยานบุคคลของโจทกเบิกความ
                 ยอมรับเอกสารฉบับใด จ าเลยก็มีสิทธิยื่นส่งเอกสารฉบับนั้นประกอบการถามค้านได้ (ฎีกาที่ ๙๐๔/๒๕๒๒)
                 และแถลงการณ์ใด ๆ ได้ เพราะ ป.วิ.อ. มาตรา ๑๗๑  ให้น าบทบัญญัติว่าด้วยการสอบสวนและพจารณา
                                                                                                  ิ
                                                             21
                                   22
                 มาใช้บังคับโดยอนุโลม
                                                                                                      ้
                                            ั
                                ถ้าตัวจ าเลยมาฟงการไต่สวน ห้ามมิให้ศาลถามค าให้การจ าเลย และก่อนที่ศาลประทับฟอง
                 มิให้ถือว่าจ าเลยอยู่ในฐานะจ าเลย (ป.วิ.อ. มาตรา ๑๖๕ วรรคสาม)
                                                                        23
                                ในกรณีที่จ าเลยไม่ได้แต่งตั้งทนายความ แต่จ าเลยมาศาล ศาลต้องตั้งทนายความให้

                                                            24
                 ในกรณีดังต่อไปนี้ (ป.วิ.อ. มาตรา ๑๖๕/๑ วรรคหนึ่ง )




                     20
                         เรื่องเดียวกัน, หน้า ๑๒๓.
                     21
                         ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๗๑ บัญญัติว่า
                       “ให้น าบทบัญญัติว่าด้วยการสอบสวนและการพิจารณา เว้นแต่มาตรา ๑๗๕ มาบังคับแก่การไต่สวนมูลฟ้องโดย
                 อนุโลม
                                                                      ้
                        ให้น าบทบัญญัติในมาตรา ๑๓๓ ทวิ และมาตรา ๑๗๒  ตรี มาใชบังคับโดยอนุโลมแก่การไต่สวนมูลฟ้องในคดีที่
                 พยานเป็นเด็กอายุไม่เกินสิบแปดปี ทั้งในคดีที่ราษฎรเป็นโจทก์และในคดีที่พนักงานอัยการเป็นโจทก  ์
                     22
                          ส านักงานศาลยุติธรรม, คู่มือปฏิบัติราชการของตุลาการ ส่วนวิธีพิจารณาความอาญา เล่มที่ ๒, (๒๕๖๔), หน้า
                 ๑๒๓.
                          ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕ บัญญัติว่า
                     23
                       “ในคดีซึ่งพนักงานอัยการเป็นโจทก์ ในวันไต่สวนมูลฟ้อง ให้จ าเลยมาหรือคุมตัวมาศาล ให้ศาลส่งส าเนาฟ้องแก่จ าเลย
                 รายตัวไป เมื่อศาลเชอว่าเป็นจ าเลยจริงแล้ว ให้อ่านและอธิบายฟ้องให้ฟัง และถามว่าได้กระท าผิดจริงหรือไม่ จะให้การ
                                ื่
                 ต่อสู้อย่างไรบ้าง ค าให้การของจ าเลยให้จดไว้ ถ้าจ าเลยไม่ยอมให้การก็ให้ศาลจดรายงานไว้ และด าเนินการต่อไป
                                                 ั้
                        จ าเลยไม่มีอ านาจน าพยานมาสืบในชนไต่สวนมูลฟ้อง แต่ทั้งนี้ไม่เป็นการตัดสิทธิในการที่จ าเลยจะมีทนายมา
                 ช่วยเหลือ
                                                                                                       ั
                        ในคดีราษฎรเป็นโจทก์ ศาลมีอ านาจไต่สวนมูลฟ้องลับหลังจ าเลย ให้ศาลส่งส าเนาฟ้องแก่จ าเลยรายตัวไป กับแจ้งวน
                 นัดไต่สวนให้จ าเลยทราบ จ าเลยจะมาฟังการไต่สวนมูลฟ้อง โดยตั้งทนายให้ซักค้านพยานโจทก์ด้วยหรือไม่ก็ได้ หรือจ าเลย
                 จะไม่มา แต่ตั้งทนายมาซักค้านพยานโจทก์ก็ได้ ห้ามมิให้ศาลถามค าให้การจ าเลย และก่อนที่ศาลประทับฟ้องมิให้ถือว่า
                 จ าเลยอยู่ในฐานะเช่นนั้น”
                      24
                           ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา ๑๖๕/๑ บัญญัติว่า
                         “ในคดีที่มีอัตราโทษประหารชีวิต หรือในคดีที่จ าเลยมีอายุไม่เกินสิบแปดปีในวันที่ถูกฟ้องต่อศาล ในการไต่สวนมูล
                 ฟ้องตามมาตรา ๑๖๕ ถ้าจ าเลยมาศาลเมื่อใด และจ าเลยไม่มีทนายความ ก็ให้ศาลตั้งทนายความให้
                          ในคดีที่มีอัตราโทษจ าคุก ในการไต่สวนมูลฟ้องตามมาตรา ๑๖๕ ถ้าจ าเลยมาศาลเมื่อใด ให้ศาลถามจ าเลยว่ามี
                 ทนายความหรือไม่ ถ้าไม่มีและจ าเลยต้องการทนายความ ก็ให้ศาลตั้งทนายความให้
                          ให้ศาลจ่ายเงินรางวัลและค่าใช้จ่ายแก่ทนายความที่ศาลตั้งตามมาตรานี้ โดยค านึงถึงสภาพแห่งคดีและสภาวะทาง
                 เศรษฐกิจ ทั้งนี้ ตามระเบียบที่คณะกรรมการบริหารศาลยุติธรรมก าหนดโดยความเห็นชอบจากกระทรวงการคลัง”
   162   163   164   165   166   167   168   169   170   171   172