Page 170 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 170

๑๕๗



                                      ๑.๓ กรณีผู้ถูกคุมความประพฤติขัดขืนไม่มาศาลตามหมายเรียกหรือหมายนัด

                                       ั
                 หรือได้หนีไปหรือมีเหตุอนควรสงสัยว่าจะหลบหนี ศาลอาจออกหมายจับผู้ถูกคุมความประพฤติ
                 เพื่อด าเนินการต่อไป (ตาม พ.ร.บ. คุมประพฤติ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๓๒ วรรคสอง)


                                ข้อสังเกต
                                พ.ร.บ. คุมประพฤติ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๓๒ วรรคหนึ่ง มีเจตนารมณ์ที่จะให้ผู้ถูกคุม

                                      ื่
                 ความประพฤติมาศาลเพอใช้สิทธิคัดค้านและน าพยานหลักฐานมาสืบหักล้างรายงานและความเห็นของ
                 พนักงานคุมประพฤติที่เป็นผลร้าย ดังนั้นเมื่อศาลด าเนินการออกหมายเรียกหรือหมายนัดให้ผู้ถูกคุมความ
                                                ุ
                 ประพฤติมาศาลตาม ๑.๑ แล้ว ผู้ถูกคมความประพฤติไม่มา ถือได้ว่าผู้ถูกคุมความประพฤติไม่ติดใจคัดค้าน
                 ข้อเท็จจริงจึงรับฟงได้ตามรายงานและความเห็นของพนักงานคุมประพฤติ ศาลจึงชอบที่จะลงโทษซึ่งรอไว้
                                ั
                                                                                             ื่
                 หรือก าหนดการลงโทษที่ยังไม่ได้ก าหนดนั้นแก่ผู้ถูกคุมความประพฤติ แล้วออกหมายจับเพอด าเนินการ
                                                                       ิ
                 ต่อไป โดยหมายจับให้ใช้อายุความตาม ป.อ. มาตรา ๙๘ ซึ่งพจารณาตามโทษที่ศาลลง ทั้งนี้ ผู้ถูกคุม
                 ความประพฤติอาจใช้สิทธิอทธรณ์ค าสั่งดังกล่าวได้ ค าพพากษาหรือค าสั่งศาลอทธรณ์เป็นที่สุด
                                                                    ิ
                                          ุ
                                                                                          ุ
                 (ตาม พ.ร.บ. คุมประพฤติ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๓๔) อย่างไรก็ตามหากความปรากฏแก่ศาลในภายหลังว่า
                                                                                         ิ
                 ผู้ถูกคุมความประพฤติไม่ได้จงใจไม่ปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ศาลก าหนด ศาลอาจเพกถอนค าสั่งแก้ไข
                 เปลี่ยนแปลงที่ให้ลงโทษนั้นได้ โดยถือว่าเป็นกรณีที่ศาลมีค าสั่งไปโดยผิดหลง (ตาม ป.วิ.พ. มาตรา ๒๗
                 ประกอบ ป.วิ.อ. มาตรา ๑๕)

                                         ิ
                                                                                                     ิ
                                ๒. ถ้าศาลพจารณาข้อเท็จจริงจากรายงานและความเห็นแล้ว เห็นว่า สามารถใช้ดุลพนิจ
                                                       ื่
                 ได้โดยไม่ต้องออกหมายเรียกหรือนัดพร้อมเพอสอบถามเพมเติมอก ให้ศาลก าหนดการลงโทษที่ยังไม่ได้
                                                                  ิ่
                                                                        ี
                 ก าหนดหรือลงโทษซึ่งรอไว้นั้น (ตาม ป.อ. มาตรา ๕๗) เช่น รายงานและความเห็นปราฏข้อเท็จจริงว่า
                                              ุ
                                                     ิ
                 ผู้ถูกคมความประพฤติจงใจท าลายอปกรณ์อเล็กทรอนิกส์ที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจ ากัดการเดินทางของ
                      ุ
                 ผู้ถูกปล่อยชั่วคราว (EM – Electronic Monitoring)  และหลบหนีออกนอกราชอาณาจักรไปแล้ว เป็นต้น
                                ข้อสังเกต
                                                          ี่
                                ๑. หากศาลก าหนดการลงโทษทยังไม่ได้ก าหนดหรือลงโทษซึ่งรอไว้โดยไม่ออกหมายเรียก
                                                           ิ่
                 หรือนัดพร้อมผู้ถูกคุมความประพฤติเพอสอบถามเพมเติมก่อนถือเป็นกรณีที่ศาลใช้อ านาจตาม ป.อ. มาตรา
                                                ื่
                 ๕๗ ส าหรับ พ.ร.บ. คุมประพฤติ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๓๒ ให้น ามาใช้ในกรณีที่ศาลเห็นสมควรออก
                                                 ้
                 หมายเรียกหรือนัดพร้อมเพื่อสอบถามขอเท็จจริงเพิ่มเติม
                                                                                 ิ
                                ๒. การออกหมายจับในกรณีนี้ เนื่องจากเป็นกรณีที่ศาลเพกถอนเงื่อนไขการคุมความ
                                                                                            ิ
                 ประพฤติและก าหนดการลงโทษที่ยังไม่ได้ก าหนดหรือลงโทษซึ่งรอไว้ อนถือว่าศาลได้มีค าพพากษาลงโทษ
                                                                           ั
                 จ าเลยแล้ว จึงให้ใช้อายุความตาม ป.อ. มาตรา ๙๘ ซึ่งพิจารณาตามโทษที่ศาลลงแก่จ าเลย

                                ๓. ผู้ถูกคุมความประพฤติมีสิทธิอทธรณ์ค าสั่งแก้ไขเปลี่ยนแปลงได้ ค าพพากษาหรือค าสั่ง
                                                                                          ิ
                                                          ุ
                 ศาลชั้นอุทธรณ์เป็นที่สุด (ตาม พ.ร.บ. คุมประพฤติ พ.ศ. ๒๕๕๙ มาตรา ๓๔)
   165   166   167   168   169   170   171   172   173   174   175