Page 316 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 316

๓๐๓



                                                                             ี่
                 ความเป็นมาและความส าคัญของปัญหาการออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงทสุดที่ไม่เป็นเอกภาพ
                                                               ุ
                            รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พทธศักราช ๒๕๖๐ มาตรา ๒๗ บัญญัติว่า บุคคล
                 ย่อมเสมอกันในกฎหมาย มีสิทธิได้รับความคุ้มครองตามกฎหมายเท่าเทียมกัน การเลือกปฏิบัติโดยไม่เป็นธรรม

                                                                                          ิ
                                     (๑)
                 ต่อบุคคลจะกระท ามิได้   จากบทบัญญัติแห่งกฎหมายสูงสุดดังกล่าว จ าเลยที่ถูกพพากษาลงโทษจ าคุก
                                                                     ุ
                 ในคดีอาญาประเภทคดีเดียวกันในวันเดียวกันและไม่มีฝ่ายใดอทธรณ์ ผู้พพากษาควรออกหมายจ าคุกเมื่อคดี
                                                                              ิ
                 ถึงที่สุดเป็นอย่างเดียวกัน เพอให้จ าเลยมีสิทธิได้รับการจัดชั้นนักโทษ เลื่อนชั้น ลดวันต้องโทษ พกการลงโทษ
                                                                                                 ั
                                         ื่
                 หรือได้รับการปล่อยตัวตามกฎหมายราชทัณฑ์หรือพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษเสมอกัน
                            จากการปฏิบัติงานในศาลจังหวัดหลายแห่ง ผู้ศึกษาพบว่าแต่ละศาลตีความวันที่คดีถึงที่สุดใน

                                                      ิ
                 คดีอาญาแตกต่างกัน แม้ในศาลเดียวกันผู้พพากษายังออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดไม่เป็นไปในแนวทาง
                                                                           ิ
                 เดียวกัน การระบุวันที่คดีถึงที่สุดในหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุด (แบบพมพ ๕๒ ตรี)  จึงต่างกัน  ตัวอย่างเช่น
                                                                                     (๒)
                                                                              ์
                                         ิ
                 คดีอาญาเรื่องหนึ่งศาลมีค าพพากษาเมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๔ ให้จ าคุกจ าเลย ๑ ปี ไม่มีคู่ความฝ่ายใด
                 อทธรณ์ ศาลหนึ่งระบุวันที่คดีถึงที่สุดในหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔  แต่อกศาลเห็น
                                                                                                   ี
                  ุ
                 ว่า วันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ เป็นวันหยุดราชการ จึงระบุวันที่คดีถึงที่สุดเป็นวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔
                                    ุ
                                                                                      ่
                                                                        ิ
                 ซึ่งเป็นวันที่ระยะเวลาอทธรณ์สิ้นสุดลงตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความแพง มาตรา ๑๔๗ วรรคสอง
                                                                               ิ
                                          ิ
                 ประกอบประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๑๕ ตามแนวค าพพากษาศาลฎีกาที่ ๑๘๘๔/๒๕๕๕
                                                         ุ
                 และหากโจทก์ได้รับอนุญาตให้ขยายระยะเวลาอทธรณ์ แต่ไม่ยื่นอทธรณ์ภายในก าหนด บางศาลระบุวันที่คดี
                                                                        ุ
                 ถึงที่สุดคือวันสุดท้ายที่โจทก์อาจยื่นอทธรณ์ตามที่ได้รับอนุญาตให้ขยาย ตามแนวค าพพากษาฎีกาที่ ๙๕๓๔/๒๕๕๓
                                                                                    ิ
                                              ุ
                 แต่บางศาลย้อนไประบุวันที่คดีถึงที่สุดเป็นวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๔ หรือวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ซึ่งเป็น
                 วันครบก าหนดหนึ่งเดือนนับแต่วันอานหรือถือว่าได้อานค าพพากษาหรือค าสั่งให้คู่ความฟง ตามแนวค าพพากษา
                                                                                         ั
                                                                  ิ
                                                            ่
                                              ่
                                                                                                     ิ
                 ฎีกาที่ ๙๑๗/๒๕๖๔ จากตัวอย่างที่ยกมาเพยงตัวอย่างเดียว แต่ละศาลก็ตีความวันที่คดีถึงที่สุดแตกต่างกัน
                                                      ี
                 เป็นหลายแนว ทั้งที่คดีมีข้อเท็จจริงเป็นอย่างเดียวกัน
                               ิ
                            ผู้พพากษาควรออกหมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดเป็นไปในแนวทางเดียวกัน เพอความเป็นเอกภาพและ
                                                                                        ื่
                 ความน่าเชื่อถือของศาล  เพราะปัญหาว่าคดีอาญาถึงที่สุดเมื่อใด เป็นปัญหาข้อกฎหมายที่ใช้หลักกฎหมายเดียวกัน
                                                                     ิ
                 ในการวินิจฉัย ไม่ใช่ปัญหาข้อเท็จจริงที่ขึ้นอยู่กับดุลพนิจของผู้พพากษา การที่ผู้พพากษาระบุวันที่คดีถึงที่สุดใน
                                                            ิ
                                                                                   ิ
                 หมายจ าคุกเมื่อคดีถึงที่สุดแตกต่างกัน ย่อมส่งผลกระทบต่อจ าเลยแตกต่างกัน จ าเลยที่คดีถึงที่สุดก่อน ย่อมเปลี่ยน
                                                                                          ิ
                 สถานะเป็นนักโทษเด็ดขาดตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พ.ศ. ๒๕๖๐ มีสิทธิได้รับการพจารณาจัดชั้นนักโทษ


                        (๑)  รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ. ๒๕๖๐.
                        (๒)  ข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการออกค าสั่งหรือหมายอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘

                 ข้อ ๔ (๖).
   311   312   313   314   315   316   317   318   319   320   321