Page 401 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 401
๓๘๘
ิ
ื่
ส่วนประกอบของชีวิตทางสังคม สร้างความอสระเดินทาง ท่าให้เข้ากับกลุ่มเพอนหรือร่วมกิจกรรมทาง
ื่
สังคม เป็นหัวข้อการสนทนาในวงเพอน ท่าให้เป็นจุดเด่นที่ใช้ดึงดูดเพอนและเพศตรงข้าม เป็นเรื่อง
ื่
1
ท้าทาย เป็นสัญลักษณ์ของศักดิ์ศรี เป็นที่ระบายความเบื่อ ความเหงา และความโกรธ ปัจจัยเหล่านี้
ท่าให้การใช้รถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นมีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว และก่อให้เกิดปัญหาอบัติเหตุ ปัญหา
ุ
สังคม และปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายเพมขนตามมาเนื่องจากลักษณะการใช้รถจักรยานยนต์ของคนกลุ่มนี้
ิ่
ึ้
ไม่ได้ตอบสนองความจ่าเป็นขั้นพนฐานในเรื่องการเดินทางเพยงอย่างเดียว แต่เป็นไปเพอตอบสนอง
ื้
ื่
ี
ความต้องการทางอารมณและความรู้สึก ซึ่งเกิดจากแรงผลักดันของปัจจัยทางจิตวิทยา จึงท่าให้ลักษณะ
์
การใช้งานรถจักรยานยนต์ของคนกลุ่มนี้เบี่ยงเบนไปจากการใช้งานในชีวิตประจ่าวันตามปกติ เช่น การ
ื่
ขับขี่รถจักรยานยนต์เพอแข่งขันบนท้องถนน ใช้ความเร็วสูงกว่าที่กฎหมายก่าหนด ขับขี่ที่โลดโผน แซง
และเปลี่ยนช่องจราจรไปมา ขาดความรู้เรื่องกฎจราจร การขับขี่ปลอดภัย และค่านึงถึงความเดือดร้อน
ของผู้อื่นน้อยมาก
แม้การกระท่าความผิดตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. ๒๕๒๒ จะถือเป็นความผิด
อาญาแผ่นดิน (Crimes Against Public) เพราะเป็นการกระท่าอันเป็นการละเมิดต่อปทัฏฐานของสังคม
ในเรื่องของการควบคุมเพอให้เกิดความปลอดภัยในชีวิต ร่างกายและทรัพย์สินสาธารณะซึ่งเป็นของ
ื่
สมาชิกของสังคมโดยตรง โดยถือว่ารัฐคือเหยื่อ (Victims) ของการกระท่าความผิดและเป็น “ผู้เสียหาย”
่
(Injure Person) ที่จะมีอานาจในการด่าเนินคดีในส่วนอาญากับผู้กระท่าความผิด พนักงานอยการ
ั
้
เท่านั้นที่จะมีอานาจในการฟองร้องและด่าเนินคดีกับผู้กระท่าความผิด แต่การกระท่าดังกล่าวก่อให้เกิด
่
ความเสียหายต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของผู้อน พระราชบัญญัติทั้งสองฉบับนี้มิได้ก่าหนดโทษ
ื่
่
ในทางแพงเพื่อให้ผู้กระท่าความผิดชดใช้ค่าสินไหมทดแทนต่อผู้ได้รับความเสียหายต่อชีวิต ร่างกาย หรือ
้
ทรัพย์ที่เป็นของเอกชนโดยตรง กรณีจึงเป็นเรื่องที่เอกชนผู้ได้รับความเสียหายจะต้องฟองผู้กระท่า
ความผิดโดยอางประมวลกฎหมายอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา และประมวล
้
ิ
้
กฎหมายแพงและพาณิชย์ แล้วแต่กรณี ประกอบการฟองร้องด้วยตามแต่พฤติการณ์ของคดีและการ
่
กระท่าความผิดครั้งนั้น ๆ ท่าให้พระราชบัญญัติจราจรทางบก หรือพระราชบัญญัติรถยนต์กลายเป็น
กฎหมายที่มีแต่การบัญญัติฐานความผิดทางอาญา แม้จะก่าหนดโทษปรับไว้ด้วย แต่โทษปรับดังกล่าว
่
ก็เป็นการลงโทษทางอาญาสถานหนึ่งเท่านั้น ไม่มีการบัญญัติโทษทางแพงส่าหรับการกระท่าเดียวกันแต่
ื่
มีผลกระทบต่อชีวิต ร่างกายหรือทรัพย์สินของผู้อนไว้โดยตรง ท่าให้ผู้เสียหายต้องเรียกร้องค่าสินไหม
* น.บ. (จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย), น.บ.ท.
1 สุรางค์ศรี ศีตมโนชญ์ และคณะ, รายงานวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการการพัฒนารูปแบบการแก้ไขปัญหาการ
เสียชีวิตจากอุบัติเหตุจราจรอย่างมีส่วนร่วมโดยอาศัยทรัพยากรและศักยภาพในพื้นที่วงรอบที่ ๓ จังหวัดภูเก็ต, สืบค้นเมื่อ
๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๔ จาก https://www. Rodsafetythai.org/uploadfiles/ACC_54013pdf www.
Rodsafetythai.org/uploadfiles/ACC_54013pdf