Page 436 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 436
๔๒๓
ิ่
พระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2518 ใช้บังคับ
8
ตั้งแต่วันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2518 แก้ไขเพิ่มเติมเป็นอัตรายี่สิบบาทต่อหนึ่งวัน
พระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2530 ใช้บังคับ
ิ่
ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2530 แก้ไขเพิ่มเติมเป็นอัตราเจ็ดสิบบาทต่อหนึ่งวัน 9
ิ่
พระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 15) พ.ศ. 2545 ใช้บังคับ
ตั้งแต่วันที่ 9 มกราคม 2546 แก้ไขเพิ่มเติมเป็นอัตราสองร้อยบาทต่อหนึ่งวัน
10
ปัจจุบัน พระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 25) พ.ศ. 2559 ใช้
ิ่
11
บังคับตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2559 แก้ไขเพิ่มเติมเป็นอัตราห้าร้อยบาทต่อหนึ่งวัน
การท างานบริการสังคมหรือสาธารณะประโยชน์แทนการช าระค่าปรับ เริ่มมีบัญญัติไว้ใน
ิ่
พระราชบัญญัติแก้ไขเพมเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ 15) พ.ศ.2545 มาตรา 7 บัญญัติว่า ให้เพม
ิ่
ความต่อไปนี้เป็นมาตรา 30/1 ....แห่งประมวลกฎหมายอาญา
ิ
“มาตรา 30/1 ในกรณีที่ศาลพพากษาปรับไม่เกินแปดหมื่นบาท ผู้ต้องโทษปรับซึ่งมิใช่
นิติบุคคล และไม่มีเงินช าระค่าปรับอาจยื่นค าร้องต่อศาลชั้นต้นที่พพากษาคดี เพื่อขอท างานบริการสังคมหรือ
ิ
ท างานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ” เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ เนื่องจากในการ
ลงโทษผู้กระท าความผิดทางอาญามีหลักการส าคัญประการหนึ่งคือ เพอแก้ไขให้ผู้นั้นสามารถกลับตัวเป็น
ื่
พลเมืองดี ดังนั้น โทษที่ผู้กระท าความผิดควรจะได้รับจึงต้องมีความเหมาะสมกับสภาพความผิด อย่างไรก็ตาม
ปรากฏว่าในปัจจุบันมีผู้ได้รับโทษปรับต้องถูกกักขังแทนค่าปรับเป็นจ านวนมากขึ้น ซึ่งผู้รับโทษนั้นๆ ต้อง
สูญเสียอิสรภาพโดยไม่สมควรท าให้บุคคลในครอบครัวต้องเดือดร้อน และรัฐต้องรับภาระในการดูแลเพมมาก
ิ่
ขึ้น สมควรปรับเปลี่ยนมาตรการลงโทษเสียใหม่ โดยก าหนดมาตรการให้ผู้ต้องโทษปรับท างานบริการสังคม
ี
หรือท างานสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับได้อกทางหนึ่ง และในกรณีที่อาจต้องถูกกักขังอยู่นั้นบุคคลดังกล่าว
สมควรได้รับความคุ้มครองมิให้ต้องถูกเปลี่ยนโทษจากกักขังเป็นจ าคุกอนเป็นโทษที่หนักยิ่งกว่า รวมทั้งมิให้
ั
ต้องถูกคุมขังรวมกับผู้ต้องหาในคดีอาญาที่มีอัตราโทษสูง
เพอสอดรับกับการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญาข้างต้น ส านักงานศาลยุติธรรมได้ออก
ื่
ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการก าหนดจ านวนชั่วโมงที่ถือเป็นการท างานหนึ่งวันและ
แนวปฏิบัติในการให้ท างานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับ และการเปลี่ยนสถานที่กักขัง
12
พ.ศ. 2546 มีหลักรายละเอียดหลักๆ ดังนี้ ….
ื่
ข้อ 3 เพอประโยชน์ในการก าหนดจ านวนชั่วโมงท างานบริการสังคมหรือท างาน
สาธารณประโยชน์แทนค่าปรับตามมาตรา 30/1 วรรคหก แห่งประมวลกฎหมายอาญา ให้ถือว่า
8 รก.2518/32/1พ/12 กุมภาพันธ์ 2518
9 รก. 2530/173/13พ/1 กันยายน 2530
10 รก.2546/4ก/1/8 มกราคม 2546
11 ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 133/ตอนที่ 31 ก/หน้า 1/7 เมษายน 2559
12 ระเบียบราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรมว่าด้วยการก าหนดจ านวนชวโมงที่ถือเป็นการท างานหนึ่งวัน และแนว
ั่
ปฏิบัติในการให้ท างานบริการสังคมหรือสาธารณประโยชน์แทนค่าปรับและการเปลี่ยนสถานที่กักขัง พ.ศ. 2546 ใช้บังคับตั้งแต่
วันที่ 10 มกราคม พ.ศ. 2546

