Page 437 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 437

๔๒๔




                               3.1 การท างานช่วยเหลือดูแลอานวยความสะดวกหรือให้ความบันเทิงแก่คนพการ คนชรา
                                                                                                ิ
                 เด็กก าพร้าหรือผู้ป่วยในสถานสงเคราะห์หรือสถานพยาบาล งานวิชาการหรืองานบริการด้านการศึกษา เช่น
                 การสอนหนังสือ การค้นคว้าวิจัย หรือการแปลเอกสาร เป็นต้น จ านวน 2 ชั่วโมง เป็นการท างานหนึ่งวัน
                               3.2 การท างานวิชาชีพ งานช่างฝีมือหรืองานที่ต้องใช้ความรู้ความเชี่ยวชาญ เช่น งานช่างฝีมือ

                 เครื่องยนต์ ก่อสร้าง คอมพิวเตอร์หรือวิชาชีพอย่างอื่น เป็นต้น จ านวน 3 ชั่วโมงเป็นการท างานหนึ่งวัน
                                                                                    ื่
                                                                ็
                               3.3 การท างานบริการสังคมหรือบ าเพญสาธารณประโยชน์อนที่ไม่ต้องใช้ความรู้ความ
                                           ี่
                 เชี่ยวชาญหรืองานอื่นนอกจากทก าหนดไว้ เช่น งานท าความสะอาดหรือพัฒนาสถานที่สาธารณะ งานปลูกป่า
                 หรือดูแลสวนป่าหรือสวนสาธารณะ งานจราจร เป็นต้น จ านวน 4 ชั่วโมง เป็นการท างานหนึ่งวัน

                                            ั
                               ในกรณีมีเหตุอนสมควร ศาลอาจก าหนดจ านวนชั่วโมงการท างานตามวรรคหนึ่งให้ลด
                 น้อยลงได้  ทั้งนี้ โดยค านึงถึงหลักเกณฑ์ตามข้อ 7 และให้ระบุเหตุผลไว้โดยชัดแจ้งด้วย
                               ข้อ 4 ผู้ต้องโทษปรับซึ่งไม่มีเงินช าระค่าปรับอาจร้องขอท างานบริการสังคมหรือท างาน

                                                                                 ี
                                                         ิ
                 สาธารณประโยชน์แทนค่าปรับต่อศาลชั้นต้นที่พพากษาคดี โดยระบุรายละเอยดและประวัติของผู้ร้องตาม
                 แบบพิมพ์ที่ก าหนดไว้ท้ายระเบียบนี้
                                                    ิ
                                ข้อ 5 ในคดีที่ศาลมีค าพพากษาปรับไม่เกินแปดหมื่นบาท ศาลอาจสอบถามว่าผู้ต้องโทษ
                 ปรับมีเงินช าระค่าปรับหรือไม่ และแจ้งให้ทราบถึงสิทธิที่จะขอท างานบริการสังคมหรือท างาน

                 สาธารณประโยชน์แทนค่าปรับก็ได้
                               ให้ศาลจัดให้มีการช่วยเหลือหรืออ านวยความสะดวกในการจัดท าและยื่นค าร้องตามข้อ 4 ด้วย

                               ข้อ 6 ในการพจารณาว่าสมควรให้ผู้ต้องโทษปรับท างานบริการสังคมหรือท างาน
                                             ิ
                 สาธารณประโยชน์แทนค่าปรับหรือไม่ ศาลควรค านึงถึงประโยชน์ที่จะเกิดจากมาตรการบริการสังคมและ

                                            ึ
                 สาธารณประโยชน์ให้มาก และพงให้ความส าคัญแก่ข้อมูลที่เกี่ยวกับฐานะการเงิน ประวัติและสภาพความผิด
                                      ื่
                 ของผู้ต้องโทษปรับและเพอการนี้ ศาลอาจสอบถามหรือไต่สวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติมเพื่อให้ได้ข้อมูลประกอบการ
                                                                  ั
                  ิ
                                                                                    ื่
                 พจารณาครบถ้วนรวมทั้งอาจขอความร่วมมือจากพนักงานอยการหรือหน่วยงานอนในการสืบเสาะหาข้อมูล
                 เพื่อประกอบการพิจารณาก็ได้
                               ฐานะการเงินของผู้ต้องโทษปรับ ให้พิจารณาจากรายได้ ทรัพย์สิน ความเป็นอยู่ ภาระหนี้สิน
                 ต่าง ๆ เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงปรากฏว่าผู้นั้นมีเงินพอที่จะช าระค่าปรับในเวลาที่ยื่นค าร้องหรือไม่

                               ประวัติของผู้ต้องโทษปรับให้พจารณาถึงประวัติการกระท าความผิด การศึกษา อาชีพ
                                                          ิ
                 ความรู้ ความเชี่ยวชาญ ครอบครัว และสภาพแวดล้อม รวมทั้งข้อมูลส่วนบุคคลประการอื่น

                               สภาพความผิด ให้พิจารณาถึงความหนักเบาแห่งข้อหา ความรุนแรงของการกระท าความผิด
                 สภาวะทางจิตใจ การกระท าความผิดโดยเจตนาหรือประมาท ความเสียหายที่เกิดจากการกระท าความผิด

                 สภาพความผิดที่ไม่ควรอนุญาตให้ท างานแทนค่าปรับ ได้แก่ ความผิดที่ได้กระท าไปด้วยเจตนาร้ายหรือทุจริต
                        ั
                 ฉ้อฉล  อนมีผลกระทบต่อสาธารณชนส่วนรวม หรือความผิดที่กฎหมายมุ่งประสงค์จะลงโทษในทางทรัพย์สิน
                               ื่
                 ต่อผู้กระท าผิดเพอมิให้ผู้นั้นได้รับประโยชน์จากการกระท าความผิด เช่น ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน
                 ความผิดเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด ความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ความผิดตามกฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และ
   432   433   434   435   436   437   438   439   440   441   442