Page 619 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 619

๖๐๗



                        ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๐ ได้ก าหนดหลักเกณฑในการเรียกประกัน
                                                                                            ์
                                               ิ
                                                                                                ั
                 และหลักประกนในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลย โดยขยายเพดานอัตราโทษจากคดีทมีอตราโทษจ าคุก
                             ั
                                                                                             ี่
                                                                             ื่
                                          ั
                 อย่างสูงเกิน ๕ ปีขึ้นไป เป็นอตราโทษจ าคุกอย่างสูงเกิน ๑๐ ปีขึ้นไป เพอให้โอกาสผู้ต้องหาหรือจ าเลยได้รับ
                 การปล่อยชั่วคราวมากขึ้น ลดความเหลื่อมล้ าในสังคมในเรื่องการหาหลักประกัน ไม่เป็นภาระต่องบประมาณรัฐ
                 ในการดูแลผู้ต้องหาหรือจ าเลยขณะถูกคุมขัง และเป็นไปตามมาตรา ๒๙ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร
                 ไทยที่บัญญัติว่า ในคดีอาญาให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้ต้องหาหรือจ าเลยไม่มีความผิด (Presumption of

                 Innocence)  และการควบคุมหรือคุมขังผู้ต้องหาหรือจ าเลยให้กระท าได้เพยงเท่าที่จ าเป็นเพอป้องกันมิให้มี
                                                                                               ื่
                                                                                ี
                 การหลบหนี โดยค าขอประกันผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญาต้องได้รับการพจารณาและจะเรียกหลักประกัน
                                                                                 ิ
                 จนเกินควรแก่กรณีมิได้

                        อย่างไรก็ดี แม้ประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญา มาตรา ๑๑๐ วรรคแรก จะก าหนดว่าคดีที่มี
                                                       ิ
                 อัตราโทษจ าคุกอย่างสูงเกิน ๑๐ ปีขึ้นไป ศาลจะสั่งปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจ าเลยได้ จะต้องให้ผู้ต้องหาหรือ

                 จ าเลยท าสัญญาประกัน แต่ในทางปฏิบัติศาลจะให้ผู้ต้องหาหรือจ าเลยวางหลักประกันด้วย ซึ่งกรณีผู้ต้องหา
                 หรือจ าเลยวางหลักประกันและท าสัญญาประกันตามเกณฑ์ประกันที่ศาลก าหนดแล้วก็ไม่ต้องใช้ก าไล

                 อเล็กทรอนิกส์ติดตามตัว (Electronic Monitoring/EM ) แต่กรณีที่หลักประกันไม่เพยงพอ ศาลอาจสั่งให้ใช้
                                                                                        ี
                  ิ
                 EM ได้ และอาจลดหลักประกันเหลือไม่เกิน ๑ ใน ๕ หรือร้อยละ ๒๐ ของเกณฑ์ประกันโดยไม่ต้องลดวงเงินใน
                             ๑๗
                 สัญญาประกัน  ทั้งนี้ การปล่อยชั่วคราวโดยมีประกันและมีหลักประกันโดยไม่ได้ก าหนดเงื่อนไขพิเศษ มักไม่มี
                 การตั้งผู้ก ากับดูแลตามพระราชบัญญัติมาตรการก ากับและติดตามจับกุมผู้หลบหนีการปล่อยชั่วคราวโดยศาล

                                                     ั
                 พ.ศ. ๒๕๖๐ เพราะผู้ประกันซึ่งมีความผูกพนทางทรัพย์สินกับหลักประกัน มีหน้าที่ติดตามและน าตัวส่งศาลอยู่
                                                                         ื่
                 แล้ว หากมีเหตุขัดข้องที่ไม่อาจมาตามนัด ต้องติดต่อก่อนวันนัดเพอขอเลื่อนนัดพร้อมแจ้งเหตุขัดข้อง จึงไม่
                 จ าเป็นที่จะแต่งตั้งผู้ก ากับดูแลผู้ถูกปล่อยชั่วคราว
                        ๓. แนวคิดเกี่ยวกับการบังคับคดี

                               การบังคับคดี เป็นกระบวนการบังคับตามค าพพากษาหรือค าสั่งของศาล โดยการบังคับคดีใน
                                                                     ิ
                 คดีอาญาและคดีแพ่งมีเจตนารมณ์และวัตถุประสงค์ขที่แตกต่างกัน
                               ๓.๑ แนวคิดเกี่ยวกับการบังคับคดีอาญา

                                                                         ื่
                               การบังคับคดีอาญา คือ กระบวนการที่กระท าไปเพอให้มีการบังคับให้เป็นไปตามค าพพากษา
                                                                                                     ิ
                   ึ
                 ที่ถงที่สุด รวมตลอดทั้งการวินิจฉัยสั่งการอนเกี่ยวเนื่องกบการบังคับให้เป็นไปตามค าพพากษาที่ถึงที่สุดแล้วนั้น
                                                                                        ิ
                                                    ั
                                                               ั
                 ด้วย และไม่หมายเฉพาะการด าเนินการตามค าพพากษาที่ถึงที่สุดให้ลงโทษประหารชีวิต จ าคุก หรือกักขัน
                                                          ิ
                                                                                                     ื่
                                                   ิ
                                                                                 ื่
                 เท่านั้น แต่รวมถึงการด าเนินการตามค าพพากษาที่ถึงที่สุดให้ลงโทษปรับและอน ๆ ด้วย เช่น วิธีการเพอความ

                        ๑๗  ข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วธีการและเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกันหรือหลักประกันใน
                                                               ิ
                 การปล่อยชั่วคราว ผู้ต้องหาหรือจ าเลยในคดีอาญา (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๓.
   614   615   616   617   618   619   620   621   622   623   624