Page 867 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 867

๘๕๕


                 ประธานศาลฎีกา ล้วนมีจุดประสงค์ที่มุ่งหมายเป็นอย่างเดียวกัน คือ การสร้างความเป็นธรรมและให้

                 ประชาชนได้รับประโยชน์สูงสุด

                                                      ื่
                               บทความนี้มีวัตถุประสงค์เพอให้เห็นถึงแนวคิดและทฤษฎีการลงโทษ วัตถุประสงค์ของ
                 การลงโทษ ความหมายของดุลพินิจ บัญชีมาตรฐานการลงโทษ การรับโทษทางอาญา ปัญหาการใช้ดุลพินิจ

                                  ั
                 ในการก าหนดโทษอนเกิดจากกฎหมาย บัญชีมาตรฐานการลงโทษ ทฤษฎีการลงโทษ บทบัญญัติของ
                 ประมวลกฎหมายอาญาเกี่ยวกับการใช้ดุลพนิจในการลงโทษ ตลอดจนค าแนะน าของประธานศาลฎีกา
                                                      ิ
                 ที่ควรน ามาปรับใช้ควบคู่กับบัญชีมาตรฐานการลงโทษ และข้อเสนอแนะที่อาจเป็นประโยชน์ต่อการ

                 ปฏิบัติงาน


                 หลักปรัชญาอาชญาวิทยาในการลงโทษ

                                                                       ื้
                                      ส าหรับหลักปรัชญาอาชญาวิทยาที่เป็นแนวคิดพนฐานและมีความส าคัญที่น ามาเป็นหลัก
                                                                      ื่
                 ในการก าหนดโทษไว้ในประมวลกฎหมายอาญาและกฎหมายอน ๆ ที่มีโทษทางอาญา และยังน ามาเป็น
                                                           ี
                 แนวทางปฏิบัติของศาลในการลงโทษผู้กระท าผิดอกด้วย ซึ่งปรัชญาอาชญาวิทยาในการลงโทษที่ส าคัญ ๆ
                 มีอยู่ ๔ ปรัชญาด้วยกัน ดังนี้

                                                 ิ
                               ๑. ปรัชญาอาชญาวทยาดั้งเดิม (Classical school of criminology) เป็นแนวคิดของ
                 ส านักอาชญาวิทยาดั้งเดิม มีวัตถุประสงค์ในการลงโทษที่ส าคัญ ๒ ประการ คือ

                                     (๑.๑) เพื่อเป็นการทดแทนความผิดหรือเพื่อให้สาสมกับความผิด (Retribution)

                                  (๑.๒) เพื่อเป็นการป้องกัน (Prevention)
                                 ซึ่งวัตถุประสงค์ในการลงโทษดังกล่าวนั้น สามารถน ามาแยกออกเป็นทฤษฎีการลงโทษได้

                 ๒ ทฤษฎี คือ

                                  (๑) ทฤษฎีการลงโทษเพื่อทดแทนหรือเพอให้สาสม (Retributive Theory) และ
                                                                   ื่
                                  (๒) ทฤษฎีการลงโทษแบบอรรถประโยชน์ (Utility Theory) ส าหรับทฤษฎีการลงโทษ

                 แบบอรรถประโยชน์นั้น ยังแยกออกได้เป็น ๓ ทฤษฎี คือ
                                    (๑) ทฤษฎีการลงโทษเพื่อป้องกันอาชญากรรม (Prevention Theory)

                                    (๒) ทฤษฎีการลงโทษเพื่อข่มขู่ยับยั้ง (Deterrence Theory) และ

                                    (๓) ทฤษฎีการลงโทษเพื่อแก้ไขปรับปรุงผู้กระท าผิด (Reformation Theory)
                 ทฤษฎีการลงโทษต่าง ๆ ที่กล่าวมานี้ปัจจุบันยังคงมีความส าคัญต่อการน ามาใช้ประกอบในการก าหนดโทษ

                 ผู้กระท าผิดอยู่ตลอดมา
                                 ๒. ปรัชญาอาชญาวทยากึ่งดั้งเดิม (Neo-Classical school of criminology) เป็น
                                                  ิ
                 แนวคิดของส านักอาชญาวิทยากึ่งดั้งเดิม มีแนวความคิดว่าการลงโทษผู้กระท าผิดควรจะต้องค านึงถึง

                 ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวข้องกับคดีเป็นหลักส าคัญด้วย เช่น ข้อเท็จจริงที่เกี่ยวกับประวัติภูมิหลังของ
                 ผู้กระท าความผิดหรือพฤติการณ์แห่งคดี เป็นต้น เพอน าข้อเท็จจริงต่าง ๆ นั้นมาปรับให้สอดคล้องกับ
                                                             ื่
   862   863   864   865   866   867   868   869   870   871   872