Page 925 - บทความทางวิชาการหลักสูตร ผู้พิพากษาหัวหน้าศาล รุ่นที่ 21
P. 925
๙๑๓
ได้เสร็จสิ้นไปในคราวเดียวกัน โดยให้ผู้ที่ได้รับความเสียหายมีสิทธิยื่นค าร้องขอให้จ าเลยชดใช้ค่าสินไหม
ั
ิ
่
ทดแทนในคดีอาญาทุกประเภทที่พนักงานอยการเป็นโจทก์ต่อเนื่องไปได้ เพอให้การพจารณาคดีส่วนแพง
ื่
เป็นไปโดยรวดเร็ว ดังที่ปรากฏในหมายเหตุท้าย พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม ป.วิ.อ. (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ. ๒๕๔๘ นั้น
แม้ตาม ป.วิ.อ. ได้มีค าอธิบายค าว่า ผู้เสียหายไว้ในมาตรา ๒ (๔) ซึ่งบัญญัติว่า “ผู้เสียหาย หมายถึงบุคคลผู้
ได้รับความเสียหายเนื่องจากการกระท าผิดฐานใดฐานหนึ่ง รวมทั้งบุคคลอนที่มีอานาจจัดการแทนได้ ดังที่
ื่
บัญญัติไว้ในมาตรา ๔, ๕ และ ๖” แต่ข้อความตามมาตรา ๔๔/๑ ที่บัญญัติให้ผู้เสียหายมีสิทธิที่จะเรียก
ค่าสินไหมทดแทนได้นั้น ย่อมมีความหมายในตัวว่า หมายถึง ผู้ที่มีสิทธิเรียกค่าสินไหมทดแทน จึงมี
ความหมายที่แตกต่าง ขัดกับความหมายของผู้เสียหายที่บัญญัติไว้ในมาตรา ๒(๔) การตีความค าว่า
ผู้เสียหายตามมาตรา ๔๔/๑ จึงไม่ต้องถือตามความหมายเช่นเดียวกับมาตรา ๒(๔) ทั้งนี้ เป็นไปตาม ป.วิ.อ.
มาตรา ๑ ที่บัญญัติว่า “ในประมวลกฎหมายนี้ ถ้าค าใดมีค าอธิบายไว้แล้วให้ถือความหมายดังได้อธิบายไว้
ิ
เว้นแต่ ข้อความในตัวบทจะขัดกับค าอธิบายนั้น” ดังนั้น การพจารณาว่าผู้ใดจะมีสิทธิยื่นค าร้องต้อง
ิ
พจารณาจากสิทธิในทางแพง ไม่ใช่กรณีที่จะน าความหมายของค าว่า ผู้เสียหายในทางอาญา เช่นเป็น
่
ผู้เสียหายโดยนิตินัยหรือผู้มีอ านาจจัดการแทน ตาม ป.วิ.อ. มาตรา ๕(๒) มาบังคับใช้
จะเห็นได้ว่า ค าพพากษาศาลฎีกาดังกล่าวได้วางหลักเกณฑ์ส าคัญ เกี่ยวกับผู้เสียหายที่มีสิทธิเรียก
ิ
เอาค่าสินไหมทดแทนตามประมวลกฎหมายวิธีพจารณาความอาญามาตรา ๔๔/๑ โดยผู้เสียหายในที่นี้
ิ
หมายถึง ผู้มีสิทธิเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนโดยพิจารณาสิทธิในทางแพง ไม่จ าต้องเป็นผู้เสียหายโดยนิตินัย
่
ตามมาตรา ๒ (๔) แห่งประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา ซึ่งผู้เขียนเห็นด้วยกับแนวค าพิพากษาของ
่
ศาลฎีกาที่สองนี้มากกว่าแนวทางแรก เนื่องจากวัตถุประสงค์ของกฎหมายต้องการให้การด าเนินคดีแพงที่
เกี่ยวเนื่องกับคดีอาญาในส่วนแพงนั้น ผู้เสียหายได้รับการเยียวยาด้วยความรวดเร็ว ต่อเนื่องและได้รับ
่
ยกเว้นค่าธรรมเนียมเพื่อลดภาระให้แก่ผู้เสียหาย แต่พฤติการณ์ของผู้เสียหายที่มีส่วนในการกระท าความผิด
ิ
หรือมีส่วนประมาทอยู่ด้วยนั้น ยังต้องน าไปใช้พจารณาประกอบในการก าหนดค่าสินไหมทดแทนตามหลัก
่
แห่งประมวลกฎหมายแพงและพาณิชย์ มาตรา ๔๔๒ ซึ่งบัญญัติว่า “ถ้าความเสียหายได้เกิดขึ้นเพราะ
ความผิดอย่างหนึ่งอย่างใดของผู้ต้องเสียหายประกอบด้วยไซร้ ท่านให้น าบทบัญญัติแห่งมาตรา ๒๒๓ มาใช้
บังคับโดยอนุโลม” และมาตรา ๒๒๓ บัญญัติว่า“ถ้าฝ่ายผู้เสียหายได้มีส่วนท าความผิดอย่างใดอย่างหนึ่ง
ก่อให้เกิดความเสียหายด้วยไซร้ ท่านว่า หนี้อนจะต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ฝ่ายผู้เสียหายมากน้อย
ั
ี
เพยงใดนั้น ต้องอาศัยพฤติการณ์เป็นประมาณ ข้อส าคัญก็คือว่า ความเสียหายนั้นได้เกิดขึ้นเพราะฝ่ายไหน
เป็นผู้ก่อยิ่งหย่อนกว่ากันเพยงไร...” จึงถือว่าสอดคล้องกับเจตนารมณ์ในการแก้ไขเพมเติมประมวล
ี
ิ่
ิ
กฎหมายวิธีพจารณาความอาญาให้ผู้เสียหายมีสิทธิยื่นค าร้องขอให้จ าเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนใน
ิ
่
คดีอาญาทุกประเภทที่พนักงานอยการเป็นโจทก์ต่อเนื่องไปได้ เพอให้การพจารณาคดีส่วนแพงเป็นไปโดย
ื่
ั
๓๔
รวดเร็ว รวมทั้งยกเว้นค่าธรรมเนียมส าหรับการด าเนินคดีดังกล่าวเพอลดภาระให้แก่ผู้เสียหาย ดังนี้
ื่
ย่อมเป็นประโยชน์ต่อการบริหารงานคดีของศาลและอ านวยความยุติธรรมแก่ผู้เสียหายอย่างแท้จริง
๓๔ หมายเหตุท้ายพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ๒๔) พ.ศ.๒๕๔๘.

