Page 381 - 2553-2561
P. 381

ค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่ ๒๒/๒๕๕๔                       ศาลแพ่ง

                                                                                       ศาลปกครองกลาง



             พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ (มาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) (๓))
             พระราชบัญญัติสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๔๑




                      คดีที่ผู้อ�านวยการสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ยื่นฟ้องจ�าเลยที่ ๑
             ถึงที่ ๒๔ คณะกรรมการสถาบัน จ�าเลยที่ ๒๕ ถึงที่ ๒๗ รองผู้อ�านวยการสถาบัน จ�าเลยที่ ๒๘ ถึงที่ ๓๒ ผู้ช่วย
             ผู้อ�านวยการสถาบัน และจ�าเลยที่ ๓๓ ถึงที่ ๓๔ พนักงานสถาบัน ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยกัน กรณีจ�าเลย

             ที่ ๑ ถึงที่ ๒๔ ประเมินผลการปฏิบัติงานของโจทก์โดยไม่เป็นธรรม และมีมติให้โจทก์พ้นจากต�าแหน่ง พร้อมทั้ง

             มีค�าสั่งให้ออกหนังสือเวียนแจ้งข้อความเพื่อให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง และเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน
             ส่วนจ�าเลยที่ ๒๕ ถึงที่ ๓๔ ร่วมกันท�าหนังสือถึงรัฐมนตรีกล่าวหาโจทก์ว่าเป็น ผู้ก่อให้เกิดความแตกแยกใน
             องค์กร และจ�าเลยที่ ๒๕ ที่ ๓๓ และที่ ๓๔ ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ภายในองค์กรสถาบันใส่ความโจทก์

             ขอให้บังคับจ�าเลยทั้งสามสิบสี่ร่วมกันชดใช้ค่าเสียหาย กับให้ลงข้อความขอโทษในหนังสือพิมพ์รายวัน เห็นว่า

             เมื่อเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้สืบเนื่องมาจากการที่โจทก์กล่าวหาว่า จ�าเลยที่ ๑ ถึงที่ ๒๔ ซึ่งมีอ�านาจและหน้าที่วาง
             นโยบายและควบคุมดูแลโดยทั่วไปซึ่งกิจการของสถาบันตามพระราชบัญญัติสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์
             และเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๔๑ มาตรา ๑๕ ประเมินผลการปฏิบัติงานของโจทก์โดยไม่เป็นธรรม และมีมติให้โจทก์

             พ้นจากต�าแหน่งผู้อ�านวยการสถาบันก่อนครบก�าหนดวาระ จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับหน่วยงานทางปกครอง หรือ

             เจ้าหน้าที่ของรัฐกระท�าการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๑) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง
             ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ และการที่โจทก์กล่าวหาว่า จ�าเลยที่ ๑ ถึงที่ ๒๔ มีค�าสั่ง
             ให้ออกหนังสือเวียนแจ้งข้อความส่งไปยังหน่วยงานภายในสถาบัน และส่งทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์

             ไปยังพนักงานสถาบันทุกคน ทั้งเผยแพร่ต่อสื่อมวลชน เพื่อให้โจทก์เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่นเกลียดชัง ท�าให้โจทก์

             ได้รับความเสียหาย พร้อมทั้งขอให้ชดใช้ค่าเสียหายด้วยนั้น พฤติการณ์ของจ�าเลยที่ ๑ ถึงที่ ๒๔ ตามที่โจทก์
             กล่าวอ้างเป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย จึงเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระท�าละเมิดของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
             อันเกิดจากการใช้อ�านาจตามกฎหมาย หรือจากกฎ ค�าสั่งทางปกครอง หรือค�าสั่งอื่น ตามมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง

             (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ส่วนการที่โจทก์กล่าวหา

             ว่า จ�าเลยที่ ๒๕ ถึงที่ ๓๔ ร่วมกันท�าหนังสือถึงรัฐมนตรีกล่าวหาโจทก์ว่า เป็นผู้ก่อให้เกิดความแตกแยกในองค์กร
             และจ�าเลยที่ ๒๕ ที่ ๓๓ และที่ ๓๔ ส่งจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ภายในองค์กรสถาบันใส่ความโจทก์ ท�าให้โจทก์
             ได้รับความเสียหายนั้น ก็ล้วนเป็นผลสืบเนื่องมาจากการกระท�าของจ�าเลยที่ ๑ ถึงที่ ๒๔ จึงเป็นมูลคดีที่เกี่ยว

             เนื่องกัน ดังนั้น ข้อพิพาทในคดีนี้จึงเป็นคดีปกครอง อันอยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของศาลปกครอง











                รวมย่อค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่น่าสนใจ
         380    พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๑
   376   377   378   379   380   381   382   383   384   385   386