Page 384 - 2553-2561
P. 384
โครงการพัฒนาลุ่มน�้าสงครามดังกล่าวจึงเป็นการใช้อ�านาจทางปกครองและปฏิบัติหน้าที่ในการด�าเนินกิจการ
ทางปกครองตามที่กฎหมายก�าหนด เมื่อโจทก์ฟ้องว่าการด�าเนินโครงการดังกล่าวของจ�าเลยได้บุกรุกเข้าไปใน
ที่ดินของโจทก์ในส่วนที่โจทก์ไม่ได้ขายให้แก่จ�าเลย และเมื่อโจทก์ไม่ยอมขายที่ดินบริเวณพิพาทให้แก่จ�าเลย
เพิ่มเติม จ�าเลยจึงออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินบริเวณที่ต้องใช้เพิ่มเติมดังกล่าว ซึ่งโจทก์เห็นว่ามีเจตนา
เพื่อกลบเกลื่อนปิดบังหรือลบล้างความผิดอันเป็นการกระท�าที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายและท�าให้โจทก์ได้รับความ
เสียหาย กรณีจึงเป็นข้อพิพาทอันเนื่องมาจากการใช้อ�านาจทางปกครองและการด�าเนินกิจการทางปกครอง และ
เป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระท�าละเมิดของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อ�านาจ
ตามกฎหมายที่อยู่ในอ�านาจพิจารณาพิพากษาของ ศาลปกครองตามมาตรา ๒๒๓ วรรคหนึ่ง ของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ ประกอบกับมาตรา ๙ วรรคหนึ่ง (๓) แห่งพระราชบัญญัติจัดตั้ง
ศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. ๒๕๔๒ ทั้งจ�าเลยก็ยอมรับว่าที่ดินพิพาทเป็นของโจทก์จึงขอ
ซื้อเพิ่มเติมและออกพระราชกฤษฎีกาเวนคืนที่ดินดังกล่าวในภายหลัง คดีนี้จึงไม่มีข้อโต้แย้งหรือประเด็นพิพาท
เกี่ยวกับสิทธิในที่ดินแต่อย่างใด
รวมย่อค�าวินิจฉัยชี้ขาดอ�านาจหน้าที่ระหว่างศาลที่น่าสนใจ
พ.ศ. ๒๕๕๓ - ๒๕๖๑ 383