Page 59 - คู่มือปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุตจริตฯ
P. 59
คู่มือการปฏิบัติงานศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ
| 48
แล้ว (เทียบฎีกาที่ 1735/2514 (ประชุมใหญ่)) ดังนั้น เมื่อผู้ถูกกล่าวหาหรือจ าเลยได้รับ
อนุญาตจากศาลให้ปล่อยชั่วคราวแต่หลบหนีไป จึงมีผลเท่ากับว่าจ าเลยสละสิทธิไม่ประสงค์
จะใช้สิทธิในการพิจารณาคดีต่อหน้าจ าเลยแล้ว เมื่อศาลเห็นเป็นการสมควรเพื่อให้การพิจารณา
เป็นไปโดยไม่ชักช้าก็ให้ศาลมีอ านาจพิจารณาและสืบพยานลับหลังจ าเลยได้ (ศาลอาญา
คดีทุจริตฯ กลาง แดงที่ ๕๘/๒๕๖๐)
หมายเหตุ
กรณีผู้เสียหายเป็นโจทก์ ศาลมีค าสั่งว่าคดีมีมูลและหมายเรียกจ าเลย
สอบค าให้การ หากจ าเลยไม่มาศาล ยังไม่ถือว่าจ าเลยอยู่ในอ านาจ สืบพยานลับหลังจ าเลยไม่ได้
การออกหมายจับต้องมีอายุความ (เทียบฎีกาที่ 270/2528, 1780/2531)
5. การด าเนินคดีต่อผู้ถูกกล่าวหาหรือจ าเลยที่หลบหนีไปในระหว่างที่ได้รับ
การปล่อยชั่วคราว ตาม พ.ร.บ. วิ. ทุจริตฯ มาตรา 14 วรรคหนึ่ง แยกเป็น 2 กรณี ดังนี้
๕.1 กรณีผู้ถูกกล่าวหาหลบหนีไปในระหว่างที่ได้รับการปล่อยชั่วคราว
ก่อนยื่นค าฟ้อง ในชั้นยื่นค าฟ้องถ้ามีการยื่นค าฟ้องความผิดฐานหลบหนีประกันมาพร้อมกับ
ความผิดในคดีทุจริตฯ อันถือได้ว่าเป็นค าฟ้องคดีอาญาส าหรับการกระท าอันเป็นความผิด
หลายกรรมต่างกันในความผิดที่เกี่ยวข้องกัน ศาลอาญาคดีทุจริตฯ มีอ านาจรับพิจารณาหรือ
ไม่รับพิจารณาก็ได้ เป็นดุลพินิจของศาลโดยค านึงถึงความสะดวกและเพื่อประโยชน์แห่งความ
ยุติธรรมเป็นส าคัญ ตาม พ.ร.บ. จัดตั้งฯ มาตรา 9 แต่หากขณะยื่นค าฟ้องนั้น มีการแยกฟ้อง
ความผิดฐานหลบหนีประกันมาต่างหาก กรณีเช่นนี้ ศาลอาญาคดีทุจริตฯ ไม่มีอ านาจรับฟ้อง
ความผิดฐานหลบหนีประกันไว้พิจารณา ต้องฟ้องต่อศาลแขวงหรือในท้องที่ที่มีอ านาจพิจารณา
พิพากษาคดีอาญาทั่วไป
๕.2 กรณีจ าเลยหลบหนีไปในระหว่างที่ได้รับการปล่อยชั่วคราว
ในชั้นพิจารณาของศาล อันเป็นการกระท าความผิดภายหลังจากยื่นค าฟ้องต่อศาลแล้ว
คดีความผิดฐานหลบหนีประกันจึงไม่อยู่ในเขตอ านาจของศาลอาญาคดีทุจริตฯ ศาลอาญา
คดีทุจริตฯ จึงไม่มีอ านาจพิจารณาพิพากษาลงโทษจ าเลยในความผิดฐานหลบหนีประกัน
ดังนั้น กรณีผู้ถูกกล่าวหาหรือจ าเลยหลบหนีไปในระหว่างที่ได้รับการปล่อย
ชั่วคราว ตาม พ.ร.บ. วิ. ทุจริต ฯ มาตรา 14 การบังคับโทษ จึงไม่เหมือนกับกรณีละเมิดอ านาจศาล
โดยให้ด าเนินการดังนี้