Page 59 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 59

57

                                                                                                                       8

               ท าการ เป็นการน าเรือออกไปท าการประมงพาณิชย์นอกน่านน้ าก่อนที่พระราชก าหนดการประมง พ.ศ.

               ๒๕๕๘ มีผลบังคับใช้ หรือขณะจ าเลยน าเรือประมงล าเกิดเหตุเข้าเทียบท่าที่จังหวัดระนอง ก็เพื่อด าเนินการ
               เกี่ยวกบการจดทะเบียนคนต่างด้าวให้ถูกต้อง อันเป็นการสนองนโยบายรัฐบาลที่ออกพระราชก าหนดการ
                     ั
               ประมง พ.ศ.๒๕๕๘ ก็เป็นข้ออ้างที่ขัดกับค ารับสารภาพของจ าเลย เป็นข้อที่มิได้ยกขึ้นว่ากันมาแล้วโดยชอบ

               ในศาลล่างทั้งสอง อีกทั้งพระราชก าหนดการประมง พ.ศ.๒๕๕๘ มีความมุ่งหมายเพื่อการจัดระเบียบการ
               ประมงในประทศไทย และในน่านน้ าทั่วไป เพื่อป้องกันมิให้มีการท าการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย

               รวมทั้งคุ้มครองสวัสดิภาพคนประจ าเรือและป้องกันการใช้แรงงานผิดกฎหมายในภาคการประมง จึงได้
               ก าหนดบทลงโทษผู้ฝ่าฝืนในอัตราโทษที่สูง เมื่อจ าเลยฝ่าฝืนน าคนงานกัมพูชา ๑๖ คน เข้าท างานใน

               เรือประมงโดยไม่มีหนังสือคนประจ าเรือ กรณีถือว่าจ าเลยมีเจตนาฝ่าฝืนกฎหมายนับเป็นเหตุร้ายแรง ที่ศาล
               อุทธรณ์ภาค ๘ ลงโทษปรับและไม่รอการก าหนดโทษให้จ าเลยนั้นเหมาะสมแล้ว





               ๓๒.ควำมผิดเกี่ยวกับ พ.ร.ก.กำรกู้ยืมเงินที่เป็นกำรฉ้อโกงประชำชน พ.ศ.๒๕๒๗

                    ไม่รอกำรลงโทษ


                         ๔๘๗๕/๒๕๖๑ มีความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.๒๕๒๗ มาตรา ๔
               วรรคแรก ๑๒ ป.อ ๓๔๓ วรรคแรก ทางน าสืบของจ าเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งสี่ คง

               จ าคุก ๔ ปี ๖ เดือน ให้จ าเลยคืนเงิน ๑,๕๖๘,๐๐๐ บาท แก่ผู้เสียหายที่ ๑ ถึงที่ ๘๕ พร้อมดอกเบี้ยในอัตรา

               ร้อยละ ๗,๕ ต่อปี

                         ความผิดฐานฉ้อโกงประชาชนตาม ป.อ มาตรา ๓๔๓ มิใช่ความผิดต่อส่วนตัว แม้ปรากฏข้อเท็จจริง

               ว่าผู้เสียหายบางคนมีการยอมความแล้ว สิทธิน าคดีอาญามาฟ้องในความผิดฐานนี้ก็ยังไม่ระงับตาม ป.วิ.อ
               มาตรา ๓๙ (๒) อีกทั้งความผิดตามฟ้องเกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจของประเทศ อันถือได้ว่าเป็นความปลอดภัย

               และความมั่นคงของประเทศชาติโดยตรง เป็นความผิดร้ายแรง ที่ศาลล่างทั้งสองก าหนดโทษจ าคุกโดยไม่รอ

               การลงโทษให้นั้น เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว

                         ๖๒๐๕/๒๕๖๒ มีความผิดตาม พ.ร.ก.การกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน พ.ศ.๒๕๒๗ มาตรา ๔

               วรรคหนึ่ง ๑๒ ป.อ มาตรา ๓๔๓ วรรคแรก (เดิม) ประกอบมาตรา ๘๓ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คง
               จ าคุก ๒ ปี ๖ เดือน


                         จ าเลยร่วมกับพวกฉ้อโกงด้วยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อผู้เสียหายทั้งสิบและประชาชนทั่วไป

               เป็นเหตุให้ผู้เสียหายทั้งสิบต้องสูญเสียเงนรวม ๗,๒๖๐,๐๐๐ บาท ลักษณะการกระท าความผิดของจ าเลย
                                                  ิ
               กับพวกเป็นไปโดยอาศัยความหลงเชื่อผู้อื่นที่ผิดไปจากความจริง และถือเอาประโยชน์จากความส าคัญผิดนั้น

               มาเป็นประโยชน์ส่วนตน โดยไม่ค านึงถึงความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่ผู้อื่น นับว่าเป็นภัยต่อสุจริตชน
   54   55   56   57   58   59   60   61   62   63