Page 55 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 55

53

                                                                                                                       8

               ความผิดท านองนี้อีก เห็นสมควรระวางโทษปรับจ าเลยอีกสถานหนึ่งและก าหนดเงื่อนไขเพื่อคุมความ

               ประพฤติของจ าเลยเสียใหม่ให้เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งคดี




               ๒๖.ควำมผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.๒๕๕๑

                    รอกำรก ำหนดโทษ


                         ๓๖๒๔/๒๕๖๐ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๓๒ วรรค

               หนึ่ง ๔๓ วรรคหนึ่ง รอการก าหนดโทษจ าเลยไว้มีก าหนด ๒ ปี นับแต่วันอ่านค าพิพากษาศาลฎีกาให้จ าเลย
               ฟัง โดยห้ามจ าเลยประพฤติใดอันอาจน าไปสู่การกระท าความผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่ม

               แอลกอฮอล์ พ.ศ.๒๕๕๑ ท านองเดียวกันอีก (๓๖๒๓/๒๕๖๐ พิพากษาในท านองเดียวกัน)


                         การที่จ าเลยเป็นเจ้าของร้านค้าที่เกิดเหตุ เพียงแต่ยินยอมให้พนักงานของบริษัทผู้จ าหน่ายเครื่องดื่ม
               แอลกอฮอล์ประเภทเบียร์ ยี่ห้อ ช. น าป้ายไวนิลโฆษณาขนาดกว้างประมาณ ๘๐ เซนติเมตร ยาวประมาณ

               ๑๒๐ เซนติเมตร จ านวน ๓ ผืน มาติดตั้งที่บริเวณชายคาหน้าร้านค้าของจ าเลย อันเป็นการโฆษณา
               เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ประเภทเบียร์ดังกล่าว ถือว่าเป็นพฤติการณ์ที่ไม่ร้ายแรงนัก เมื่อไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคย

               ได้รับโทษจ าคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรให้โอกาสจ าเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป โดยรอการก าหนดโทษ
               จ าเลยสักครั้งหนึ่ง


               ๒๗.ควำมผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ห้ำมเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรำ พ.ศ.๒๔๗๕


                    ไม่รอกำรลงโทษ

                         ๔๙๕๕/๒๕๖๐ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ.๒๔๗๕ มาตรา ๓ (ก) และ

                                                                                            ุ
               ประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ ๕๘ ข้อ ๕ (๗) ๑๖ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคก ๖ เดือน
                         จ าเลยประกอบกิจการจัดหาเงินทุนในทางการค้าปกติ แล้วน าออกให้ผู้อื่นกู้เงินแบบนอกระบบและ

               ให้บุคคลทั่วไปในเขตพื้นที่ต าบลในเมือง อ าเภอเมืองอุบลราชธานี จังหวัดอุบลราชธานี ยืมเงินโดยคิด

               ดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ ๖๐ ต่อเดือน หรือร้อยละ ๗๒๐ ต่อปี และร้อยละ ๒๕ ต่อเดือน หรือร้อยละ ๓๐๐
               ต่อปี เกินกว่าอัตราดอกเบี้ยที่กฎหมายก าหนดไว้ไม่เกินร้อยละ ๑๕ ต่อปี เป็นจ านวนสูงกว่าที่กฎหมาย

               ก าหนดอย่างมาก ซึ่งเห็นได้ว่าเป็นการประกอบอาชีพเพื่อหารายได้บนความเดือนร้อนของผู้ที่ตกทุกข์ได้ยาก
               โดยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายและไร้จิตส านึกต่อศีลธรรมอันดี พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จ าเลย

               ไม่เคยต้องโทษจ าคุกมาก่อน หรือมีภาระต้องอุปการะบุคคลในครอบครัว หรือมีเหตุอื่น ๆ ตามที่จ าเลยฎีกา

               ก็เป็นเหตุผลส่วนตัว ไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย
   50   51   52   53   54   55   56   57   58   59   60