Page 51 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 51
49
8
กระท าภายหลังจากที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาลงโทษจ าคุกจ าเลยแล้ว แสดงว่าจ าเลยกระท าเพื่อจุดประสงค์อื่น
ไม่ใช่บรรเทาผลร้ายให้แก่ผู้เสียหาย จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย นอกจากนี้แม้
จ าเลยจะประกอบอาชีพสุจริตหรือมีเหตุอื่นดังที่อ้างในฎีกา กรณีก็มิใช่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษ
จ าคุกให้แก่จ าเลย แต่เมื่อความปรากฏว่าจ าเลยน าเงิน ๓๐๐,๐๐๐ บาท มาวางต่อศาลชั้นต้นเพื่อช าระหนี้
ตามเช็คพิพาทแก่ผู้เสียหาย ศาลฎีกาเห็นสมควรก าหนดเสียใหม่ให้เหมาะสมแก่รูปคดี
๒๑.ควำมผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ว่ำด้วยควำมผิดเกี่ยวกับกำรเสนอรำคำต่อหน่วยงำนของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒
ไม่รอกำรลงโทษ
๑๐๒๓๗/๒๕๕๘ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๑๕๑, ๑๕๗, ๑๖๒ พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับ
การเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๗, ๑๒ ประกอบ ป.อ มาตรา ๘๓ รับสารภาพ ลด
โทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๒ ปี ๖ เดือน
พฤติการณ์ของจ าเลยมุ่งเอาแต่ประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้องไม่ถูกต้องตามท านองคลองธรรม
ท าให้เกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นและสังคมโดยส่วนรวม จึงเป็นเรื่องร้ายแรง ที่จ าเลยอ้างว่าไม่เคยกระท า
ความผิดและมีภาระต้องอุปการะเลี้ยงดูครอบครัวยังไม่มีน้ าหนักเพียงพอที่จะลงโทษสถานเบาและรอการ
ลงโทษ
๒๒.ควำมผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงำน พ.ศ.๒๕๔๑
รอกำรลงโทษ
๕๐๒๐/๒๕๔๙ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๗๐, ๑๔๔ วรรคหนึ่ง
รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๑ เดือน และปรับ ๒,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษ
แม้จ าเลยจะกระท าความผิดฐานไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างให้ถูกต้องและตามก าหนด และฐานฝ่า
ผืนไม่ปฏิบัติตามค าสั่งของพนักงานตรวจแรงงานภายในก าหนดเวลาตามค าสั่งก็ตาม แต่ค่าจ้างที่ค้างจ านวน
เงินไม่มากนั้น หลังเกิดเหตุจ าเลยให้การรับสารภาพและพาลูกจ้างไปร้องเรียนที่ส านักงานสวัสดิการและ
คุ้มครองแรงงานจังหวัด ศ.ด้วยตนเอง เพื่อให้ช่วยติดตามผู้รับเหมาชั้นต้นมารับผิดชอบจ่ายค่าจ้างให้แก่
ลูกจ้างอันแสดงว่าจ าเลยยังรู้ส านึกในความผิดแห่งตน พฤติการณ์แห่งคดียังไม่ร้ายแรงนัก เมื่อไม่ปรากฏว่า
จ าเลยเคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรรอการลงโทษจ าคุก
ไม่รอการลงโทษปรับ