Page 49 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 49

47

                                                                                                                       8

               จ าเลยได้กลับตัวด้วยการรอการลงโทษจ าคุก ส่วนที่ศาลชั้นต้นรอการลงโทษจ าคุกให้แก่นาง ส.คู่คดีของ

               จ าเลย ก็ไม่ผูกพันคดีนี้




               ๑๙.ควำมผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.คนเข้ำเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ และ พ.ร.บ.กำรท ำงำนของคนต่ำงด้ำว พ.ศ.

               ๒๕๕๑

                    ไม่รอกำรลงโทษ


                         ๖๖๖๑/๒๕๖๑ มีความผิดตาม พ.ร.บ. การท างานของคนต่างด้าว พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๗, ๕๔
               พ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ.๒๕๔๑ มาตรา ๔๕ (๑) ๙๐ วรรคหนึ่ง ๑๔๔, ๑๔๖ พ.ร.ก.การประมง พ.ศ.

               ๒๕๕๘ มาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง ๑๒๔ ประกอบ ป.อ มาตรา ๘๓


                         จ าเลยให้ที่พักอาศัยแก่คนต่างด้าวเข้าพักอาศัยเพื่อให้พ้นจากการจับกุมเพียง ๑ คน ส าหรับเป็น
               คนงานบ้านและดูแลบุคคลภายในบ้านของจ าเลย พฤติการณ์แห่งการกระท าความผิดถือว่าไม่ร้ายแรงมาก

               นัก ทั้งไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน เห็นสมควรรอการลงโทษให้แก่จ าเลยสักครั้งหนึ่ง
               เพื่อให้โอกาสจ าเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี ซึ่งน่าจะเป็นผลดีแก่จ าเลยและสังคมส่วนรวมมากกว่าที่จะจ าคุก

               จ าเลยเสียทีเดียว อย่างไรก็ตามเพื่อให้จ าเลยหลาบจ าและป้องปรามมิให้จ าเลยกระท าความผิดอีก สมควร
               ลงโทษปรับจ าเลยอีกสถานหนึ่ง และก าหนดเงื่อนไขคุมความประพฤติของจ าเลยไว้ด้วย (จ าเลยกระท า

               ความผิดฐานข่มขืนกระท าช าเราคนต่างด้าวด้วย แต่คนต่างด้าวได้ถอนค าร้องทุกข์ในระหว่างการพิจารณา

               ของศาลฎีกา สิทธิน าคดีอาญาในข้อหาดังกล่าวมาฟ้องย่อมระงับ ศาลฎีกาจึงจ าหน่ายคดีในความผิดดังกล่าว
               ออกจากสารบบความ)


                         ๕๑๘/๒๕๕๙ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๖๔ วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.การ
               ท างานของคนต่างด้าว พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๗, ๕๕ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๑ เดือน และ

               ปรับ ๗,๕๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษและให้คุมความประพฤติ


                         ที่จ าเลยขอให้รอการลงโทษจ าคุกนั้น แม้เป็นปัญหาข้อเท็จจริงซึ่งต้องห้ามมิให้ฎีกา แต่หากศาลฎีกา
               เห็นว่าศาลล่างลงโทษหนักเกินไปก็ย่อมมีอ านาจแก้ไขให้เหมาะสมแก่ความผิดได้ กรณีนี้ข้อเท็จจริงตาม

               อุทธรณ์ของจ าเลยซึ่งโจทก์มิได้แก้อุทธรณ์โต้แย้งฟังได้ว่า การที่จ าเลยให้การช่วยเหลือซ่อนเร้น เพื่อให้คน
               ต่างด้าวพ้นจากการจับกุมก็เพื่อที่จ าเลยจะรับคนต่างด้าวเข้าท างานเป็นลูกจ้างในต าแหน่งกรรมกรก่อสร้าง

               ของจ าเลยซึ่งมีอาชีพรับเหมาก่อสร้าง การกระท าความผิดของจ าเลยจึงเป็นไปโดยมุ่งประสงค์ที่จะหา

               แรงงานในการประกอบอาชีพของตน แม้จะปรากฏว่าจ าเลยกระท าความผิดลักษณะเดียวกันนี้อีก ๒๖ คดี
               เป็นคนต่างด้าวอีกจ านวน ๒๖ คน แต่พฤติการณ์แห่งคดีไม่เป็นเรื่องที่ร้ายแรงนัก และมิใช่การกระท า

               ความผิดซ้ าโดยไม่หลาบจ า อีกทั้งจ าเลยให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนและชั้นพิจารณามาโดยตลอด
   44   45   46   47   48   49   50   51   52   53   54