Page 47 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 47
45
8
จ าเลยมีไม้แดงแปรรูป ๖๑ แผ่น/เหลี่ยม และไม้ประดู่แปรรูป ๓๔ แผ่น/เหลี่ยม รวม ๙๕ แผ่น/
เหลี่ยม รวมปริมาตร ๑.๕๒ ลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. ไว้ในครอบครอง ภายในเขต
ควบคุมการแปรรูปไม้โดยไม่ได้รับอนุญาตมีจ านวนปริมาตรไม้ไม่มากนัก พฤติการณ์แห่งคดีจึงไม่ร้ายแรง
ประกอบกับจ าเลยไม่เคยกระท าผิดมาก่อน และมีภาระเลี้ยงดูครอบครัว เห็นควรให้โอกาสจ าเลยกลับตน
เป็นพลเมืองดี การรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลยน่าจะเป็นผลดีแก่จ าเลยและส่วนรวม แต่เพื่อให้จ าเลย
หลาบจ าสมควรลงโทษปรับอีกสถานหนึ่งและคุมความประพฤติของจ าเลย และเมื่อลงโทษปรับแล้วเห็นควร
ให้จ่ายเงินสินบนน าจับด้วย
๓๐๑/๒๕๖๑ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ๗๒ ตรี วรรคสอง
ป.อ มาตรา ๓๕๘ ทางน าสืบของจ าเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจ าคุก
๒ ปี และปรับ ๒๐,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษและคุมความประพฤติ
การครอบครองท าประโยชน์ในที่ดินที่เกิดเหตุของจ าเลยเป็นการครอบครองต่อจากนาง ช.ที่
ครอบครองท าประโยชน์มาก่อน โจทก์ไม่ได้น าสืบให้เห็นว่าหลังจากจ าเลยเข้าไปครอบครองท าประโยชน์ใน
ที่ดินที่เกิดเหตุแล้ว ที่ดินที่เกิดเหตุมีสภาพต่างไปจากสภาพที่ดินในช่วงที่นาง ช.ครอบครองท าประโยชน์
อย่างไรและที่ดินที่เกิดเหตุมีความเสียหายมากขึ้นเพียงใด อีกทั้งที่โจทก์น าสืบท านองว่าจ าเลยตัดต้นไม้สักใน
ที่ดินที่เกิดเหตุ ๑๔ ต้น จ าเลยก็น าสืบว่าต้นไม้สักที่ถูกตัดโค่นเป็นของนาง ช. จ าเลยไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
เท่ากับปฏิเสธว่าจ าเลยไม่ได้เป็นผู้ตัด โจทก์ไม่ได้น าสืบในเรื่องนี้ให้ได้ความกระจ่างชัด ข้อเท็จจริงจึงฟังได้ไม่
ถนัดนักว่าจ าเลยเป็นผู้ตัดต้นไม้สักในที่ดินที่เกิดเหตุ ประกอบกับจ าเลยมีอาชีพเป็นเกษตรกร การที่จ าเลยไป
ยื่นค าร้องต่อส านักงานการปฏิรูปที่ดินจังหวัด ส.ขอให้ท าการรังวัดที่ดินที่เกิดเหตุเพื่อออกหนังสืออนุญาตให้
เข้าท าประโยชน์ในเขตปฏิรูปที่ดิน (เอกสาร ส.ป.ก. ๔-๐๑) ให้แก่จ าเลย เจ้าหน้าที่ของส านักงานการปฏิรูป
ที่ดินจังหวัด ส.ไปท าการรังวัดและจัดท ารูปแผนที่ที่ดินแล้ว แสดงให้เห็นว่าจ าเลยประสงค์ที่จะด าเนินการใน
เรื่องนี้ให้ถูกต้องตามกฎหมาย พฤติการณ์ในการกระท าความผิดของจ าเลยนับว่าไม่ร้ายแรงนัก เมื่อไม่
ปรากฏว่าจ าเลยเคยต้องโทษจ าคุกมาก่อน ทั้งจ าเลยประกอบอาชีพที่สุจริตและมีภูมิล าเนาถิ่นที่อยู่เป็นหลัก
แหล่ง การลงโทษจ าคุกไปเสียทีเดียวไม่น่าจะเป็นผลดีแก่จ าเลยและสังคมโดยรวม กรณีมีเหตุสมควรให้
โอกาสจ าเลยปรับปรุงตัวประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไปด้วยการรอการลงโทษไว้สักครั้ง แต่เพื่อให้จ าเลย
หลาบจ าให้ลงโทษปรับอีกสถานหนึ่งและคุมความประพฤติของจ าเลยไว้
๖๖๘๑/๒๕๖๑ มีความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๖๔ วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.ป่าไม้
พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ๗๒ ตรี วรรคสอง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ มาตรา ๑๔, ๓๑
วรรคสอง ประกอบ ป.อ มาตรา ๘๓ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคก ๒ ปี ๓ เดือน และปรับ
ุ
๖๒.๕๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษและคุมความประพฤติ
