Page 42 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 42
40
8
จ าเลยบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินอันเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตอุทยานแห่งชาติซึ่ง
เป็นป่าต้นน้ าล าธาร เนื้อที่ ๕ ไร่ ๑ งาน ๐.๒๘ ตารางวา โดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่และมิได้
สัมปทานหรือได้รับการยกเว้นใด ๆ ตามกฎหมาย การกระท าของจ าเลยเป็นการท าลายทรัพยากรอันมีค่า
และมีความส าคัญต่อระบบนิเวศ ย่อมส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมซี่งเป็นผลเสียหายต่อ
สภาพความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไปและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ แม้จ าเลยจะไม่เคยกระท า
ความผิดมาก่อน ก็ยังไม่เพียงพอที่จะรอการลงโทษให้แก่จ าเลยได้ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๘ ใช้ดุลพินิจลงโทษ
จ าเลยโดยไม่รอการลงโทษนั้น เหมาะสมแก่พฤติการณ์แห่งรูปคดีแล้ว
๙๘๙๑/๒๕๕๗ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ๗๒ ตรี วรรคสอง
พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ มาตรา ๑๔, ๓๑ วรรคหนึ่ง ทางน าสืบของจ าเลยเป็นประโยชน์แก่การ
พิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจ าคุก ๒ ปี ๘ เดือน
การที่จ าเลยบุกรุกเข้าไปแผ้วถางและยึดถือครอบครองที่ดินที่เกิดเหตุซึ่งด้านทิศตะวันออกอยู่ติดกับ
เขื่อนสิรินธร โดยอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติช่องเม็ก เนื้อที่ ๔๕ ไร่ ๕๓ ตารางวา และอยู่ในเขตป่าติดต่อกัน
นอกเขตป่าสงวนแห่งชาติช่องเม็ก เนื้อที่ ๒ ไร่ ๓ งาน ๑๒ ตารางวา รวม ๔๗ ไร่ ๓ งาน ๖๕ ตารางวา นั้น
คิดเป็นเนื้อที่จ านวนมาก อันเป็นการกระท าด้วยประการใด ๆ ที่ท าให้เสื่อมเสียแก่ทรัพยากรธรรมชาติในเขต
ป่าและเขตป่าสงวนแห่งชาติ ซึ่งรัฐมีวัตถุประสงค์เพื่อคุ้มครองรักษาทรัพยากรที่มีอยู่ให้คงอยู่ในสภาพ
ธรรมชาติเดิม และเพื่อคุ้มครองป้องกันและรักษาไว้ซึ่งทรัพยากรธรรมชาติอันมีค่าของชาติ การกระท าของ
จ าเลยเป็นอันตรายต่อระบบนิเวศและความหลากหลายทางชีวภาพอันมีคุณค่าควรจะอนุรักษ์และคุ้มครอง
ไว้มิให้ถูกท าลายเพื่อประโยชน์แก่ส่วนรวม พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จ าเลยไม่เคยกระท า
ความผิดหรือได้รับโทษจ าคุกมาก่อน และมีภาระที่ต้องเลี้ยงดูบุพการีก็ตาม ก็ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะ
รอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย
๑๓๔๑๒/๒๕๕๗ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง ๕๔ วรรคหนึ่ง
๖๙ วรรคหนึ่ง ๗๒ ตรี วรรคหนึ่ง วรรคสาม ๗๓ วรรคหนึ่ง ๗๔ จัตวา พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๗
มาตรา ๑๔, ๓๑ วรรคหนึ่ง วรรคสาม พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๔ มาตรา ๑๖ (๑) (๒) ๒๔ รับ
ุ
สารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคก ๗ เดือน
การกระท าของจ าเลยที่บุกรุกเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติและอุทยานแห่งชาติที่เกิดเหตุเพื่อยึดถือ
ครอบครองท าประโยยชน์โดยก่นสร้าง แผ้วถาง อันเป็นการท าลายป่าเป็นเนื้อที่ ๑ ไร่ ๙ ตารางวา โดยไม่ได้
รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ และจ าเลยยังท าไม้โดยตัดฟันต้นไม้ซึ่งเป็นไม้หวงห้ามประเภท ก. และไม้
อื่นอันยังมิได้แปรรูปรวม ๑๒ ท่อน ปริมาตรมากถึง ๓.๒๗ ลูกบาศก์เมตร นอกจากจะเป็นการท าลาย
ทรัพยากรป่าไม้ที่ส าคัญของประเทศแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสภาพแวดล้อมและระบบนิเวศทางธรรมชาติ
ซึ่งจะเป็นผลเสียต่อประชาชนและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ พฤติการณ์ในการกระท าความผิดขอจ าเลย