Page 39 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 39

37

                                                                                                                      8

               ให้ตามขอ ที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ ไม่รอการก าหนดโทษหรือรอการลงโทษให้แก่จ าเลยทั้งสอง ศาลฎีกาเห็น

               พ้องด้วย

                         ๑๒๓๐/๒๕๕๖ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทน

               ราษฎรและสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ.๒๕๔๑ ๔๔ (๑) ๑๐๑ จ าคุก ๓ ปี และปรับ ๕๐,๐๐๐ บาท


                         จ าเลยเป็นข้าราชการควรปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีโดยวางตัวเป็นกลางไม่ฝักใฝ่หรือเอนเอียงช่วย
               ผู้สมัครรับเลือกตั้งอันเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครคนใด โดยคณะรัฐมนตรีได้แจ้งเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติ

               ในการเลือกตั้งซึ่งจ าเลยทราบแล้ว แต่จ าเลยกลับฝ่าฝืนมากระท าความผิด อันเป็นการบ่อนท าลายการ
               ปกครองในระบอบประชาธิปไตยที่จะให้การเลือกตั้งเป็นไปโดยสุจริตและยุติธรรม การที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๕

               พิพากษาลงโทษจ าเลยโดยไม่รอการลงโทษมานั้นนับว่าเหมาะสมแล้ว (จ าเลยถูกจับพร้อมเงิน ๙๓๓,๐๐๐
               บาท ที่จะใช้เพื่อจูงใจให้บรรดาผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนเลือกตั้งให้แก่ผู้สมัครในเขตเลือกตั้ง)


                         ๒๖๗/๒๕๕๗ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.

               ๒๕๔๕ มาตรา ๕๗ (๑) วรรคหนึ่ง วรรคสอง ๑๑๘ จ าคุก ๑ ปี

                         การกระท าของจ าเลยเป็นพฤติกรรมที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อระบบเลือกตั้งในระบอบ

               ประชาธิปไตยเป็นการแทรกแซงมติประชาชนผู้มีสิทธิลงคะแนน พฤติการณ์ของจ าเลยเป็นเรื่องร้ายแรง แม้
               จ าเลยจะประกอบคุณงามความดีและไม่เคยกระท าความผิดอาญามาก่อนตามที่จ าเลยอ้างในฎีกาก็ไม่เป็น

               เหตุเพียงพอที่จะรอการลงโทษให้จ าเลย (จ าเลยสั่งตัดชุดซาฟารีซึ่งเป็นทรัพย์ราคาสูงให้แก่บุคคลที่มีสิทธิ

               เลือกตั้งหลายคนโดยไม่มีค่าตอบแทนในระยะเวลาที่กฎหมายห้ามมิให้แจกทรัพย์สินโดยมีเจตนาจูงใจให้ผู้มี
               สิทธิเลือกตั้งให้ลงคะแนนเลือกตั้งแก่ตนเอง)


                         ๑๐๖๐๖/๒๕๕๙ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.
               ๒๕๔๕ มาตรา ๔๓ วรรคหนึ่ง วรรคสอง (๒) ๑๑๓ ประกอบ ป.อ มาตรา ๘๓ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง

               จ าคุกจ าเลยที่ ๑ และที่ ๒ คนละ ๒๑ เดือน จ าเลยที่ ๓ จ าคุก ๙ เดือน จ าเลยที่ ๔ และที่ ๕ จ าคุกคนละ ๖

               เดือน

                         พ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.๒๕๔๕ เป็นกฎหมายที่มี

               วัตถุประสงค์เพื่อให้คณะกรรมการการเลือกตั้งควบคุมและด าเนินการจัดหรือจัดให้การเลือกตั้งสมาชิกสภา
               ท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม การกระท าใดที่เป็นการฝ่าฝืนต่อบทบัญญัติของ

               กฎหมายดังกล่าว ย่อมมีผลกระทบโดยตรงต่อการเลือกตั้ง ดังจะเห็นได้ต่อมาว่ามีการคัดค้านว่าการเลือกตั้ง
               มิได้เป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม คณะกรรมการการเลือกตั้งร้องขอให้มีการเลือกตั้งใหม่ จนศาลอุทธรณ์

               ภาค ๑ แผนกคดีเลือกตั้งไต่สวนแล้วมีค าสั่งให้จัดการเลือกตั้งใหม่ ดังนั้น การที่จ าเลยทั้งห้ากระท าความผิด

               ไม่ว่าจะเป็นการร่วมกันใช้ให้บุคคลอื่นกระท าการย้ายบุคคลเข้ามาในทะเบียนบ้านโดยบุคคลนั้นมิได้อยู่อาศัย
   34   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44