Page 43 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 43

41

                                                                                                                       8

               นับว่าเป็นภัยร้ายแรงต่อสังคมส่วนรวม แม้จ าเลยยังมีภาระที่ต้องอุปการะเลี้ยงดูบุตรและไม่เคยกระท าผิดมา

               ก่อนก็ยังไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรอการก าหนดโทษหรือรอการลงโทษให้แก่จ าเลย

                         ๒๑๗๖/๒๕๕๗ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ๗๒ ตรี วรรคสอง

               จ าคุก ๙ ปี ๖ เดือน


                         การที่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่ได้เคร่งครัดในการปฏิบัติหน้าที่ จ าเลยกระท าความผิดมานานแล้วก็ไม่
               มีใครมาว่ากล่าวตักเตือน ไม่ใช่เหตุผลที่จะแสดงให้เห็นว่าการกระท าของจ าเลยตามที่ศาลล่างทั้งสองเห็นว่า

               เป็นความผิดที่ร้ายแรงนั้นไม่ใช่ความผิดที่ร้ายแรง ข้อเท็จจริงจ าเลยเป็นผู้มีฐานะดี ผู้คนในละแวกที่เกิดเหตุ
                                 ้
               รู้จักกันดี มีกิจการคาหลายอย่าง ถือเป็นคนมีหน้าตาในสังคม จ าเลยย่อมต้องทราบดีว่าการบุกรุกท าลายป่า
               ชายเลนซึ่งเป็นทรัพยากรอันมีค่าของชาติย่อมก่อให้เกิดผลเสียหายแก่สังคมโดยส่วนรวมเป็นอย่างมาก ทั้ง
               จ าเลยบุกรุกท าลายป่าในบริเวณที่เกิดเหตุเป็นเนื้อที่ถึง ๗๕ ไร่เศษ นับว่าเป็นเนื้อที่มาก การกระท าของ

               จ าเลยจึงเป็นเรื่องร้ายแรง ที่ศาลล่างทั้งสองลงโทษจ าเลยมาโดยไม่รอการลงโทษนับว่าเหมาะสมแก่ความผิด

               ของจ าเลยแล้ว แต่ที่ศาลล่างทั้งสองก าหนดโทษจ าคุกของจ าเลยโดยให้จ าคุกถึง ๑๑ ปี นับว่าหนักเกินไป
               ศาลฎีกาเห็นสมควรแก้ไขเสียใหม่ให้เหมาะสม


                         ๓๑๓๙/๒๕๕๘ จ าเลยทั้งหกมีความผิดตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ.๒๕๓๕ มาตรา
               ๓๘ วรรคหนึ่ง ๕๔ วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ มาตรา ๑๔, ๓๑ วรรคสอง (๓) พ.ร.บ.

               ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ๗๒ ตรี วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ

               วรรคหนึ่ง ๗๒ วรรคหนึ่ง ๗๒ ทวิ วรรคสอง ป.อ มาตรา ๓๗๑ ประกอบมาตรา ๘๓ จ าเลยที่ ๖ มีความผิด
               ตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง ๗๒ ทวิ วรรคสอง รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่ง

               หนึ่ง จ าคุกคนละ ๒ ปี

                         จ าเลยทั้งหกบุกรุกเข้าไปยึดถือครอบครองที่ดินเขตป่าสงวนแห่งชาติอันเป็นต้นน้ าล าธารและเขต

               รักษาพันธุ์สัตว์ป่า เป็นเนื้อที่ ๓ ไร่เศษ ผลของการการกระท าของจ าเลยทั้งหกนอกจากจะก่อให้เกิดความ

               เสียหายอย่างมากต่อสภาพพื้นที่ป่าต้นน้ าล าธารแล้ว ยังเป็นการท าลายทรัพยากรธรรมชาติที่ส าคัญของชาติ
               เป็นต้นเหตุให้ป่าไม้เสื่อมสภาพและมีจ านวนลดน้อยลง ย่อมส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสภาพสิ่งแวดล้อม

               และระบบนิเวศทางธรรมชาติโดยไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ และอาจก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติขี้น ซึ่งจะเป็น
               ผลเสียหายต่อสภาพความเป็นอยู่ของประชาชนทั่วไปและเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ อีกทั้งเจ้าพนักงาน

               จับกุมจ าเลยทั้งหกพร้อมอาวุธปืนยาวขนาด .๒๒ ไม่มีเครื่องหมายทะเบียน ๒ กระบอก อาวุธปืนพกขนาด ๙
               มม. ๑ กระบอก และมีกระสุนปืนทั้งสองขนาดจ านวนมาก ซึ่งจ าเลยทั้งหกร่วมกันมีและพาไปขณะบุกรุก

               ที่ดินในเขตป่าสงวนแห่งชาติและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดังกล่าว ส่อแสดงให้เห็นว่าจ าเลยทั้งหกมีเจตนาจะใช้

               อาวุธปืนดังกล่าวเพื่อประโยชน์ในการล่าสัตว์ป่าร่วมทั้งต่อสู้กับเจ้าพนักงานหากถูกจับกุม พฤติการณ์แห่งคดี
               จึงถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จ าเลยทั้งหกไม่เคยกระท าความผิดมาก่อนและมีภาระจะต้องเลี้ยงดูครอบครัว
   38   39   40   41   42   43   44   45   46   47   48