Page 41 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 41

39

                                                                                                                      8

               จ าเลยที่เป็นเจ้าของร้านที่เกิดเหตุแล้วใช้ร้านที่เกิดเหตุของตนติดต่อจัดหาหญิงที่ท างานในร้านมาท าการ

               ค้าประเวณี แม้เป็นความยินยอมของหญิงที่ท าการค้าประเวณี แต่ก็มีลักษณะอุกอาจ ไม่เคารพย าเกรงต่อ
               กฎหมาย จึงไม่มีเหตุสมควรรอการลงโทษ


                    รอกำรลงโทษ


                         ๓๓๔๙/๒๕๕๖ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การท างานของคนต่างด้าว พ.ศ.๒๕๕๑ มาตรา ๒๗, ๕๔
               พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ.๒๕๓๙ มาตรา ๑๑ วรรคหนึ่ง ลดโทษให้หนึ่งสาม คง

               จ าคุก ๒ ปี และปรับ ๖๐,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษและคุมความประพฤติ

                         จากค าให้การชั้นสอบสอนของหญิงสาวพม่าทั้งสามคน ประกอบภาพถ่ายร้านที่เกิดเหตุ ได้ความว่า

               หญิงสาวชาวพม่าที่อยู่ในร้านดังกล่าวไม่ได้ถูกบังคับให้ค้าประเวณีแต่อย่างใด การอาศัยอยู่กันในร้านก็มิได้

               เป็นการหน่วงเหนี่ยวกักขัง แต่เป็นการอยู่ในฐานะพนักงานเสิร์ฟของร้าน ตามสภาพความผิดจึงไม่ใช่เรื่อง
               ร้ายแรง เมื่อไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน ย่อมมีเหตุสมควรให้จ าเลยกลับตนเป็นพลเมืองดี

               ด้วยการรอการลงโทษจ าคุกให้ได้ แต่เพื่อให้หลาบจ าสมควรลงโทษปรับอีกสถานหนึ่งด้วย




               ๑๖.ควำมผิดตำม พ.ร.บ.กำรฌำปนกิจสงเครำะห์ พ.ศ.๒๕๑๗

                    รอกำรก ำหนดโทษ


                         ฎ ๑๑๑๙๑/๒๕๕๖ มีความผิดตาม พ.ร.บ.การฌาปนกิจสงเคราะห์ พ.ศ.๒๕๑๗ มาตรา ๒๙

               ประกอบมาตรา ๕๗, ๕๐ จ าคุก ๑ ปี ๒ เดือน (จ าเลยให้การรับสารภาพบางข้อหา) ให้รอการก าหนดโทษ

                         การกระท าของจ าเลยมิได้มุ่งหาก าไรและไม่ปรากฏว่ามีการทุจริต หรือมุ่งหาประโยชน์ส่วนตัว ทั้ง

               จ าเลยไม่เคยต้องโทษจ าคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสจ าเลยประพฤติตนเป็นพลเมืองดีต่อไป แต่ที่จ าเลย
               ขอให้รอการลงโทษนั้น เพื่อความเหมาะสมให้รอการก าหนดโทษแทน





               ๑๗.ควำมผิดเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม

                    ไม่รอกำรลงโทษ


                         ๔๔๕๕/๒๕๕๖ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๗ มาตรา ๑๔, ๓๑ วรรคสอง (๓)
               พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๕๔ วรรคหนึ่ง ๗๒ ตรี วรรคหนึ่ง พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ พ.ศ.๒๕๐๔

               มาตรา ๑๖ (๑) ๒๔ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๑ ปี
   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45   46