Page 37 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 37

35

                                                                                                                      8

               ทั้งสองไม่ติดใจด าเนินคดีแก่จ าเลยแล้ว และจ าเลยไม่เคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน กับมีภาระต้องอุปการะ

               เลี้ยงดูบุคคลในครอบครัวหรือมีเหตุอื่นดังที่จ าเลยยกขึ้นอ้างในฎีกา ก็ไม่เป็นเหตุเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอ
               การลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย


                         ๔๔๑๒/๒๕๕๙ มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง ๗๒
               วรรคหนึ่ง ๗๒ ทวิ วรรคสอง ป.อ มาตรา ๓๗๑, ๓๙๒ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๙ เดือน


                         จ าเลยมีและพาอาวุธปืนพร้อมด้วยกระสุนปืนของกลางซึ่งเป็นอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่

               สามารถใช้ร่วมกันและใช้ยิงท าอันตรายแก่ชีวิตและวัตถุได้ติดตัวไปในบริเวณถนนสาธารณะ เป็นการกระท า
               ที่ไม่เคารพย าเกรงต่อกฎหมาย ก่อให้เกิดผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม ทั้งอาวุธปืนที่จ าเลยมี

                                                                              ี
               และพาไปนั้นไม่มีเครื่องหมายทะเบียนของเจ้าพนักงานประทับไว้ หากมการน าไปใช้กระท าความผิดอื่นแล้ว
                                                                    ี่
               ยากแก่การที่เจ้าพนักงานผู้เกี่ยวข้องจะตรวจสอบหลักฐานเกยวกับอาวุธปืนเพื่อหาตัวผู้กระท าความผิดมา
               ลงโทษและควบคุมเพื่อมิให้เกิดอาชญากรรมขี้นได้ อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากรายงานสืบเสาะพินิจของ

               ส านักงานคุมประพฤติซึ่งจ าเลยไม่คัดค้านว่า จ าเลยเคยต้องค าพิพากษาให้ลงโทษจ าคุกมีก าหนด ๕ เดือน
               และปรับ ๗,๐๐๐ บาท ในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ตามคดีอาญาหมายเลขแดงที่ ๒๙๖/๒๕๕๖ ลง

               วันที่ ๒๒ มกราคม ๒๕๕๖ ของศาลชั้นต้น โดยศาลชั้นต้นให้โอกาสแก่จ าเลยเพื่อกลับตนเป็นพลเมืองดี โทษ

               จ าคุกจึงให้รอการลงโทษไว้มีก าหนด ๑ ปี แต่จ าเลยหาได้แก้ไขปรับปรุงตน ทั้งยังกลับมากระท าความผิดใน
               คดีนี้อีก อันแสดงให้เห็นว่าจ าเลยเป็นผู้กระท าความผิดติดนิสัย ไม่ส านึกหรือเกรงกลัวต่อโทษที่ก าหนดไว้ใน

               กฎหมาย พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จ าเลยไม่เคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน มีภาระต้อง
               อุปการะเลี้ยงดูบุคคลใครอบครัว หรือมีเหตุอื่นดังที่จ าเลยยกขึ้นอ้างในฎีกา ก็มิใช่เป็นเหตุเพียงพอที่จะรับฟัง

               เพื่อรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย

                    รอกำรลงโทษ


                         ๗๑๖๖/๒๕๕๗ มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗. ๗๒ วรรคหนึ่ง วรรคสาม

               รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๖ เดือน และปรับ ๒,๕๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษและคุม
               ความประพฤติ


                         เจ้าพนักงานตรวจพบอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนได้ที่บ้านของจ าเลย โดยไม่ปรากฏว่าจ าเลยจะ
               ใช้อาวุธปืนนั้นไปก่ออาชญากรรมใด หลังถูกจับกุมจ าเลยให้การรับสารภาพมาโดยตลอด อันแสดงว่าจ าเลย

               ยังรู้ส านึกในความผิดแห่งตน พฤติการณ์ในการกระท าความผิดของจ าเลยยังไม่ร้ายแรงนัก เมื่อไม่ปรากฏว่า

               จ าเลยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน จึงเห็นสมควรรอการลงโทษจ าคุกและคุมความประพฤติของจ าเลยไว้เพื่อให้มี
               เจ้าพนักงานคอยแนะน า ช่วยเหลือ ตักเตือน หรือสอดส่องดูแล ซี่งน่าจะเป็นผลดีแก่จ าเลยและสังคม

               มากกว่า แต่เพื่อให้จ าเลยหลาบจ าและป้องปรามมิให้จ าเลยกระท าความผิดท านองนี้อีก เห็นสมควรลงโทษ
   32   33   34   35   36   37   38   39   40   41   42