Page 32 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 32
30
8
๑๑๔๙๖/๒๕๕๗ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๓๙๒ จ าคุก ๑ เดือน และปรับ ๑,๐๐๐ บาท โทษ
จ าคุกให้รอการลงโทษไว้
พฤติการณ์ที่จ าเลยท าให้ผู้เสียหายเกิดความกลัว หรือความตกใจ โดยการขู่เข็ญนั้นไม่ร้ายแรง ทั้งไม่
ปรากฏว่ามีการใช้ก าลังประทุษร้ายกันจริง เมื่อไม่ปรากฏว่าจ าเลยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน เพื่อให้โอกาส
จ าเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีต่อไป โทษจ าคุกจึงให้รอการลงโทษไว้ แต่เพื่อให้หลาบจ าเห็นสมควรลงโทษ
ปรับจ าเลยด้วย (จ าเลยมีความผิดฐานยักยอกเงิน ๖๖,๕๐๐ บาท ด้วย แต่ในระหว่างการพิจารณาคดีของ
ศาลฎีกาผู้เสียหายได้ถอนค าร้องทุกข์ในข้อหาดังกล่าว สิทธิน าคดีอาญาในข้อหาดังกล่าวมาฟ้องย่อมระงับ
ศาลฎีกาจึงมีค าสั่งให้จ าหน่ายคดีในข้อหาดังกล่าวออกจากสารบบความ)
๑๒.ควำมผิดเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ยำเสพติด พ.ศ.๒๕๒๒
ไม่รอกำรลงโทษ
๑๑๐๓๐/๒๕๕๔ มีความผิดฐานครอบครองเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจ าหน่ายตาม
พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคสาม (๒) ๖๖ วรรคหนึ่ง ทางน าสืบของจ าเลยเป็น
ประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจ าคุก ๒ ปี ๘ เดือน
เมทแอมเฟตามีนเป็นยาเสพติดให้โทษที่เป็นภัยร้ายแรง นอกจากจะเป็นอันตรายแก่สุขภาพของผู้
เสพเองแล้ว ยังอาจเป็นบ่อเกิดของอาชญากรรมหลายประเภท ทั้งผู้เสพที่มีอาการมึนเมาเมทแอมเฟตามีน
ยังอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตและร่างกายผู้อื่นได้โดยง่าย จ าเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเป็น
จ านวนถึง ๑๙ เม็ด น้ าหนัก ๑.๗๗ กรัม มีปริมาณค านวณเป็นน้ าหนักสารบริสุทธิ์ ๐.๓๒๗ กรัม ถือได้ว่ามีไว้
ในครอบครองเป็นจ านวนมาก พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง แม้โทษที่ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษ
จ าเลยจะไม่เกินสามปี ก็ไม่สมควรรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย
๘๑๙๘/๒๕๖๐ มีความผิดตาม พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๑๕ วรรคสาม (๒) ๖๖
ุ
วรรคสอง ทางน าสืบของจ าเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจ าคก ๓ ปี และปรับ
๓๐๐,๐๐๐ บาท
การที่จ าเลยมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจ าหน่าย ลักษณะการกระท าความผิดก่อให้เกิด
การแพร่ระบาดของยาเสพติดให้โทษชนิดดังกล่าว อันเป็นการสร้างความเสียหายและเดือดร้อนแก่สังคมไม่มี
ที่สิ้นสุด พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องที่ร้ายแรง แม้ไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยกระท าความผิดใด ๆ มาก่อน
หรือมีเหตุประการอื่นดังที่กล่าวอ้างในฎีกา กไม่เป็นเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย
็
อย่างไรก็ดี ศาลฎีกาเห็นว่า พฤติการณ์แห่งการกระท าความผิดของจ าเลยดังกล่าวแม้จะเป็นเรื่องร้ายแรง