Page 28 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 28

26

                                                                                                                       8

                         จ าเลยรับราชการครูมาเป็นเวลานาน สมควรกระท าตนให้เป็นแบบอย่างที่ดีของสังคม แต่กลับ

               ปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ท าให้ราชการเสียหายเป็นเงินจ านวนมาก (๑,๓๗๒,๐๕๖.๐๘ บาท) นับว่าเป็นเรื่อง
               ร้ายแรง แม้เคยท าคุณความดีมาก่อนก็ไม่มีเหตุสมควรรอการก าหนดโทษหรือรอการลงโทษให้แก่จ าเลย


                         ๘๔๑๓/๒๕๕๖ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๑๔๗, ๑๖๒ (๓) ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จ าคุกกระทงละ ๒
               ปี ๖ เดือน รวม ๓ กระทง จ าคุก ๖ ปี ๑๘ เดือน (จ าเลยให้การปฏิเสธ ศาลชั้นต้นลดโทษให้หนึ่งในสาม

               เพราะทางน าสืบของจ าเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้าง และหลังเกิดเหตุจ าเลยช าระเงินคืนอ าเภอ

               ท.ครบถ้วนแล้ว แต่ศาลอุทธรณ์ภาค ๓ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง รอการลงโทษจ าคุกและคุมประพฤติ)

                         เมื่อพิจารณาจากพฤติการณ์ของจ าเลยที่มีต าแหน่งหน้าที่เป็นเสมียนตราอ าเภอจะต้องดูแลรักษา

               เงินของราชการ แต่จ าเลยกลับเบียดบังเงินค่าใช้จ่ายในการจัดเก็บภาษีบ ารุงท้องที่จ านวน ๑๖,๐๐๗.๔๙
               บาท เป็นของตนหรือเป็นของผู้อื่นโดยทุจริต เป็นพฤติการณ์ร้ายแรง แม้จ าเลยจะใช้เงินคืนแก่ทางราชการ

               แล้ว แต่ก็เป็นเพราะทางราชการเร่งรัดตรวจสอบและได้ความว่าเป็นความรับผิดชอบของจ าเลย หาใช่จ าเลย

               พยายามบรรเทาผลร้ายด้วยตัวเองไม่ อีกทั้งเมื่อถูกฟ้องด าเนินคดีจ าเลยยังไม่ส านึกผิดแต่ให้การปฏิเสธสู้คดี
               มาตลอดโดยอ้างว่าเป็นเพียงการปฏิบัติหน้าที่บกพร่องไม่ได้ทุจริต พฤติการณ์ยังไม่สมควรรอการลงโทษ

               จ าคุกให้แก่จ าเลย

                         ๘๐๑/๒๕๖๒ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๑๔๗ ประกอบมาตรา ๘๓ ทางน าสืบของจ าเลยทั้งสอง

               เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คุกจ าคุกจ าเลยที่ ๑ มีก าหนด ๒ ปี ๖ เดือน จ าเลยที่ ๒ มี

               ก าหนด ๑ ปี ๘ เดือน

                         แม้จ าเลยทั้งสองจะมีอายุมากและเคยท าคุณงามความดีมามากโดยไม่เคยกระท าความผิดมาก่อน

               แต่จ าเลยทั้งสองอาศัยช่องว่างของกฎระเบียบแล้วเบียดบังเงินไปจ านวนนับแสนบาท หากรอการลงโทษ
               อาจจะเป็นตัวอย่างที่ท าให้เจ้าพนักงานของรัฐไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายบ้านเมือง ที่ศาลล่างทั้งสองไม่รอการ

               ลงโทษให้แก่จ าเลยทั้งสองต้องด้วยความเห็นของศาลฎีกา แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากทางน าสืบของจ าเลยทั้ง

               สองเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณาและทางราชการได้รับเงินทั้งหมดกลับคืนไปแล้ว ประกอบกับจ าเลยทั้ง
               สองเคยท าคุณงามความดีมามาก จึงเห็นสมควรลดโทษให้จ าเลยทั้งสองกึ่งหนึ่ง (ความเสียหาย ๓๐๔,๙๔๐

               บาท)

                    รอกำรลงโทษ


                         ๖๕๓/๒๕๕๖ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๑๔๗, ๑๕๗ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง จ าคุกกระทง
               ละ ๒ ปี ๖ เดือน ปรับกระทงละ ๑๐,๐๐๐ บาท รวมจ าคุก ๑๐ ปี ๓๐ เดือน และปรับ ๕๐,๐๐๐ บาท โทษ

               จ าคุกให้รอการลงโทษและคุมความประพฤติ
   23   24   25   26   27   28   29   30   31   32   33