Page 26 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 26
24
8
คดีจึงไม่ร้ายแรงมากนักและหลังเกิดเหตุจ าเลยได้ชดใช้เงินคืนให้แก่บริษัทดังกล่าวบางส่วนเป็นเงิน ๕,๙๑๐
บาท แสดงว่าจ าเลยพยายามบรรเทาผลร้ายและส านึกในการกระท าความผิดแล้ว เห็นควรให้โอกาสจ าเลย
กลับตนเป็นพลเมืองดีเพื่อเลี้ยงดูครอบครัวต่อไป ที่ศาลชั้นต้นไม่รอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลยนั้น ศาล
ฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย แต่เพื่อให้จ าเลยเข็ดหลาบไม่หวนกลับไปกระท าความผิดในลักษณะนี้อีก เห็นสมควร
ลงโทษปรับจ าเลยอีกสถานหนึ่งและคุมความประพฤติของจ าเลยไว้
๖๑๑๗/๒๕๖๒ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๓๓๔ (เดิม) รอการกาหนดโทษไว้มีก าหนด ๑ ปี
จ าเลยเป็นผู้ท าสัญญาเช่าซื้อรถแทนผู้เสียหายที่ ๒ โดยผู้เสียหายที่ ๒ ตกลงจะให้จ าเลยกู้ยืมเงินเป็น
การตอบแทน แล้วผู้เสียหายไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงให้ครบถ้วน เป็นเหตุให้จ าเลยเอารถที่เช่าซื้อไปจาก
ผู้เสียหายที่ ๒ ถือว่าผู้เสียหายที่ ๒ มีส่วนผิดด้วย พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องที่ไม่ร้ายแรง ประกอบกับ
หลังเกิดเหตุจ าเลยขับรถกระบะไปที่บริษัท ต.เพื่อส่งมอบรถคันดังกล่าวคืนให้แก่ผู้เสียหายที่ ๒ แต่ผู้เสียหาย
ที่ ๒ น าเจ้าพนักงานต ารวจไปจับกุมจ าเลยก่อน ถือได้ว่าจ าเลยพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดแล้ว ไม่
ปรากฏว่าจ าเลยเคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน เห็นสมควรให้โอกาสจ าเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดีโดยรอการ
ก าหนดโทษไว้ ซี่งน่าจะเป็นผลดีแก่จ าเลยและสังคมส่วนรวมมากกว่าการลงโทษจ าคุกจ าเลยและรอการ
ลงโทษไว้ แม้จ าเลยไม่ได้กล่าวอ้างปัญหาข้อนี้ในชั้นฎีกา แต่ศาลฎีกามีอ านาจหยิบยกปัญหาดังกล่าวขึ้น
วินิจฉัยได้เองตาม ป.วิ.อ มาตรา ๑๘๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๑๕ และมาตรา ๒๒๕
๖.ควำมผิดต่อเจ้ำพนักงำน
ไม่รอกำรลงโทษ
ฎ ๑๔๙๕/๒๕๕๖ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๑๓๗, ๒๖๗ รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก
๖ เดือน
การกระท าความมผิดของจ าเลยที่แจ้งข้อความอันเป็นเท็จต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายทะเบียนและบัตร
ประจ าตัวประชาชนอ าเภอ ท.จดข้อความอันเป็นเท็จว่าบุคคลที่ไม่มีเชื้อชาติและสัญชาติไทยเป็นน้องสาว
ของตน ทั้งที่ความจริงน้องสาวของตนได้เสียชีวิตไปแล้วนั้น เป็นการกระท าที่ส่งผลเสียหายโดยกระทบต่อ
ระบบทะเบียนราษฎรของประเทศอันจะส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศโดยรวม เนื่องจากอาจเป็นเหตุให้
บุคคลที่ไม่มีเชื้อชาติและสัญชาติไทยดังกล่าวมีชื่อในทะเบียนและบัตรประจ าตัวประชนชนเป็นบุคคลที่มีเชื้อ
ชาติและสัญชาติไทยในนามน้องสาวของจ าเลย พฤติการณ์ในการกระท าความผิดของจ าเลยจึงเป็นเรื่อง
ร้ายแรง ดังนั้น แม้จะไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน และมีภาระที่จะต้องดูแลบุคคลใน
ครอบครัวหรือมีเหตุอื่นดังที่อ้างในฎีกา กรณีก็ยังไม่มีเหตุผลเพียงพอที่จะรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย