Page 30 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 30
28
8
อนุญาตให้จ าเลยฎีกา และจ าเลยได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างฎีกาแล้วจ าเลยคืนเงิน
๑๔๖,๐๙๕ บาท ให้แก่องค์การบริหารส่วนต าบล ศ.แล้วตามใบเสร็จรับเงินที่แนบท้ายค าร้องฉบับลงวันที่
๒๒ เมษายน ๒๕๖๒ เอกสารในส านวนอันดับที่ ๑๕๓ ซึ่งเป็นการบรรเทาความเสียหายให้แก่องค์การบริหาร
ส่วนต าบล ศ.ตามที่จ าเลยแถลงไว้ในฎีกาของจ าเลย แม้จ าเลยไม่ช าระดอกเบี้ยของต้นเงินดังกล่าวตั้งแต่วันที่
รับไปด้วย แต่องค์การบริหารส่วนต าบล ศ.ยังสามารถมีสิทธิติดตามดอกเบี้ยของเงินดังกล่าวคืนจากจ าเลยได้
ตาม ป.พ.พ มาตรา ๑๓๓๖ โดยไม่มีอายุความ เมื่อได้ค านึงถึงจ าเลยที่มีอายุประมาณ ๕๖ ปีแล้ว มีอาชีพ
เป็นหลักแหล่ง ปฏิบัติหน้าที่นายกองค์การบริหารส่วนต าบล ศ.ต่อมาตั้งแต่ปี ๒๕๔๓ เป็นต้นมาเป็นเวลา
ประมาณ ๑๖ ปี นับว่ามีคุณงามความดีมาก่อน อีกทั้งจ าเลยมีภาระต้องอุปการะเลี้ยงดูเด็กชาย บ.บุตร
ผู้เยาว์ซึ่งมีปัญหาความพิการทางการเคลื่อนไหว เห็นสมควรให้โอกาสจ าเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี โดยรอ
การลงโทษและคุมความประพฤติไว้ซึ่งน่าจะเป็นผลดีแก่จ าเลยและสังคมส่วนรวมมากกว่าการลงโทษจ าคุก
จ าเลย แต่เพื่อให้หลาบจ า เห็นสมควรลงโทษปรับอีกสถานหนึ่งด้วย
๙.ควำมผิดเกี่ยวกับเอกสำร
ไม่รอกำรลงโทษ
๓๕๔๐/๒๕๖๐ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๖๔ วรรคแรก ๒๖๘ วรรคแรก ประกอบมาตรา ๒๖๔
วรรคแรก ๒๖๘ วรรคแรก ประกอบมาตรา ๒๖๕, ๒๖๙/๘, ๒๖๙/๙ วรรคหนึ่ง วรรคสี่ รับสารภาพ ลดโทษ
ให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๖ เดือน
การที่จ าเลยปลอมค าร้องขอหนังสือเดินทางไปต่างประเทศ (ทั่วไป) และปลอมหนังสือเดินทางแล้ว
น าไปใช้เพื่อให้สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงริยาด ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ออกหนังสือเดินทาง
ให้แก่จ าเลย ย่อมส่งผลต่อความเชื่อมั่นในระบบการออกหนังสือเดินทางของประเทศไทยโดยตรง ทั้งเป็นการ
กระท าที่ค านึงถึงแต่ผลประโยชน์ของตนที่จะได้ไปท างานในต่างประเทศโดยไม่ค านึงถึงความเสียหายที่จะ
เกิดแก่ประเทศชาติ พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จ าเลยจะกระท าไปเพื่อต้องการเดินทางไป
ประกอบอาชีพที่ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียเพราะความยากจนและต้องการหารายได้ช่วยเหลือจุนเจือ
ครอบครัวดังที่จ าเลยฎีกาก็ตาม จ าเลยก็ควรจะปฏิบัติตามที่กฎหมายก าหนดไว้ โดยไม่จ าต้องแอบอ้างชื่อ
บุคคลอื่น รวมทั้งไม่ปลอมเอกสารและใช้เอกสารปลอมด้วย ทั้งจ าเลยควรจะคิดใคร่ครวญให้ดีก่อนที่จะ
กระท าความผิด มิใช่กระท าความผิดแล้วน าความยากจนหรือความต้องการหารายได้จุนเจือครอบครัวมา
เป็นข้ออ้าง เหตุดังกล่าวและเหตุที่จ าเลยต้องอุปการะเลี้ยงดูครอบครัว หรือมีคุณความดีดังที่จ าเลยอ้างตาม
ฎีกา จึงยังไม่เพียงพอที่จะรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย
๓๑๗/๒๕๖๓ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๖๔, ๒๖๖ (๑) ๒๖๘ จ าคุก ๑ ปี