Page 25 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 25

23

                                                                                                                      8

                         การที่จ าเลยรับของโจรเป็นการสนับสนุนให้มีการกระท าความผิดเกี่ยวกับทรัพย์มากขึ้น สร้างความ

               เดือนร้อนแก่สังคมโดยส่วนรวม พฤติการณ์แห่งคดีจึงเป็นเรื่องร้ายแรง แม้ผู้เสียหายไม่ติดใจด าเนินคดีแก่
               จ าเลยแล้วหรือมีเหตุผลอื่นตามที่อ้างในฎีกาก็มิใช่เหตุผลเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษจ าคุกให้จ าเลย

               (ของโจรเป็นโทรศัพท์เคลื่อนที่ราคา ๓๕,๐๐๐ บาท)

                    รอกำรลงโทษ


                         ฎ ๔๘๐๑/๒๕๕๕ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๓๕๘ ประกอบมาตรา ๘๓ จ าคุก ๖ เดือน และปรับ

               ๖,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกให้รอการลงโทษและคุมความประพฤติ (ท าลายรถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย
               ประมาณ ๑๐,๐๐๐ บาท)


                         ที่ศาลชั้นต้นลงโทษจ าคุก ๓ ปี หนักเกินไป และจ าเลยเป็นวัยรุ่นด้วยความคึกคะนองจึงเป็นกระท า

               ความผิดไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ประกอบกับไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยต้องโทษจ าคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาส
               จ าเลยพฤติกลับตนเป็นพลเมืองดี แต่เพื่อให้หลาบจ าให้ปรับจ าเลยอีกสถานหนึ่งกับคุมความประพฤติจ าเลย

               ไว้

                         ฎ ๓๘๗๔/๒๕๕๖ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๓๓๗ วรรคสอง (๑) ประกอบมาตรา ๘๐, ๓๖๕ (๒)

               ประกอบด้วยมาตรา ๓๖๔, ๓๙๑ ประกอบมาตรา ๘๓ ทางน าสืบของจ าเลยทั้งสองเป็นประโยชน์แก่การ
                                              ุ
               พิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคกจ าเลยที่ ๑ มีก านหด ๘ เดือน และปรับ ๔,๐๐๐ บาท จ าคุกจ าเลยที่ ๒
               มีก าหนด ๔ เดือน และปรับ ๒,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษ


                         การที่ผู้เสียหายที่ ๑ ซึ่งเป็นฝ่ายเจ้ามือรับกินรับใช้รับแทงพนันสลากกินรวบจากจ าเลยที่ ๒ แล้วบ่าย
               เบี่ยงการจ่ายเงินรางวัล ถือว่ามีส่วนกระท าความผิดกฎหมายอยู่ด้วย ทั้งการที่จ าเลยทั้งสองร่วมกันขู่เข็ญ

               และใช้ก าลังท าร้ายผู้เสียหายทั้งสองด้วยการตบศีรษะมิได้รุนแรงมากนัก เพราะมิได้มีการทุบท าลาย
               ทรัพย์สินในร้านเสริมสวย แสดงว่าจ าเลยทั้งสองยังเกรงกลัวต่อกฎหมายอยู่บ้างและสามารถที่ระงับยับยั้งชั่ง

               ใจได้ในระดับหนึ่ง มิใช่เป็นการลุแก่โทสะหรืออ านาจบาตรใหญ่แล้วก่อให้เกิดความเสียหายอย่างหนักแก่

               ผู้เสียหายทั้งสองจนเกินสมควรไปมาก เมื่อไม่ปรากฏว่าจ าเลยทั้งสองเคยได้รับโทษจ าคุกหรือเคยประพฤติ
               ผิดเช่นนี้มาก่อน จึงเห็นสมควรปรานีโทษให้แก่จ าเลยทั้งสอง แต่เพื่อให้จ าเลยทั้งสองเข็ดหลาบจึงให้ลงโทษ

               ปรับอีกสถานหนึ่งด้วย

                         ๙๔๒๕/๒๕๕๙ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๓๓๕ (๑) (๑๑) วรรคสอง รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่ง

               หนึ่ง คงจ าคุก ๙ เดือน และปรับ ๕,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกให้รอการลงโทษและให้คุมความประพฤติ ให้
               จ าเลยคืนเงิน ๓,๘๔๐ บาท ที่ยังไม่ได้คืนแก่บริษัท ส.จ ากัด


                         แม้จ าเลยกระท าความผิดโดยอาศัยโอกาสที่ตนเป็นลูกจ้างของบริษัท ส.จ ากัด อันเป็นการกระท า

               โดยไม่ค านึงถึงความเสียหายของบริษัทดังกล่าวก็ตาม แต่เงินที่จ าเลยลักไปมีจ านวนไม่มาก พฤติการณ์แห่ง
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30