Page 20 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 20

18

                                                                                                                      8

                         ๒๕๘๐/๒๕๖๓ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๗๗ วรรคหนึ่ง วรรคสาม ๓๑๗ วรรคสาม รบสารภาพ
                                                                                                    ั
               ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๘ ปี ๔๒ เดือน

                         ขณะเกิดเหตุจ าเลยมีอายุ ๑๘ ปีเศษ อยู่ในวัยที่โตพอที่จะรู้ผิดชอบชั่วดีแล้ว ได้กระท าช าเรา

               ผู้เสียหายที่ ๑ หลายครั้งในขณะที่ผู้เสียหายที่ ๑ เป็นนักเรียนมีอายุเพียง ๑๒ ถึง ๑๓ ปีเศษ อยู่ในวัยที่อ่อน
               เยาว์ ขาดความยับยั้งชั่งใจ โดยจ าเลยมิได้ตั้งใจจะอยู่กินหรือยกย่องผู้เสียหายที่ ๑ เป็นภริยา แต่เป็นการ

               กระท าเพื่อสนองความใคร่ของตนเอง สร้างความเสื่อมเสียติดตัวให้แก่ผู้เสียหายที่ ๑ ทั้งยังมีผลกระทบกับ

               จิตใจและการใช้ชีวิตต่อไปในสังคมภายหน้าอีกด้วย เป็นการขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน พฤติการณ์
               แห่งคดีถือได้ว่าเป็นเรื่องร้ายแรง แม้จ าเลยจะชดใช้เงินเพื่อบรรเทาผลร้ายแก่ผู้เสียหายทั้งสองและผู้เสียหาย

               ทั้งสองแถลงไม่ติดใจเอาความแก่จ าเลย และจ าเลยมีภาระเลี้ยงดูบุคคลในครอบครัวก็ไม่มีเหตุผลเพียง

               พอที่จะรอการลงโทษให้แก่จ าเลย

                    รอกำรลงโทษ


                         ๑๓๘๔/๒๕๖๐ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๙๗ (๘) ๓๑๙ วรรคแรก รับสารภาพ ลดโทษกึ่งหนึ่ง
               คงจ าคก ๒ ปี ๓ เดือน และปรับ ๕,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษและคุมความประพฤติ
                     ุ

                         แม้จ าเลยโดยปราศจากเหตุอันควรพรากและพาผู้เสียหายที่ ๒ อายุ ๑๗ ปีเศษไปเสียจากความ
               ปกครองดูแลของโจทก์ร่วมซึ่งเป็นตาเพื่อการอนาจาร แต่ในชั้นพิจารณาจ าเลยให้การรับสารภาพ อันแสดง

               ว่าจ าเลยยังรู้ส านึกในความผิดแห่งตน และตามรายงานการสืบเสาะและพินิจจ าเลยของพนักงานคุม

               ประพฤติปรากฏว่าพฤติการณ์ในการกระท าความผิดของจ าเลยที่ล่วงอ านาจปกครองของโจทก์ร่วมเป็นเรื่อง
               ของชายหญิงที่มีความรักต่อกัน เพียงแต่จ าเลยกระท าแก่ผู้เสียหายที่ ๒ ในวัยอันไม่สมควรเท่านั้น ทั้ง

               ผู้เสียหายที่ ๒ และจ าเลยได้อยู่กินกันฉันสามีภริยาและมีบุตรด้วยกันแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าจ าเลยได้รับโทษ
               จ าคุกมาก่อน การให้โอกาสจ าเลยได้ดูแลครอบครัวและบุตรโดยรอการลงโทษจ าคุกและคุมความประพฤติ

               จ าเลยไว้น่าจะเป็นผลดีแก่จ าเลยและสังคมมากกว่า




               ๕.ควำมผิดเกี่ยวกับทรัพย์


                    ไม่รอกำรลงโทษ

                         ๖๔๘๔-๖๔๘๕/๒๕๕๔ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๓๕๒ วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา ๘๓ จ าคุก

               ๑๐๘ เดือน รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๕๔ เดือน ให้จ าเลยคืนเงินหรือชดใช้เงิน
               ๓,๔๖๒,๒๘๙.๒๐ บาท แก่โจทก์
   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24   25