Page 16 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 16
14
แม้การกระท าผิดของจ าเลยจะเป็นกรณีค่อนข้างร้ายแรงก็ตาม แต่ในชั้นพิจารณาจ าเลยให้การรับ
สารภาพและจ าเลยได้ทยอยชดใช้ค่าเสียหายจนที่สุดจ าเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมรวมเป็นเงิน
๕๕๐,๐๐๐ บาท ซึ่งเป็นค่าเสียหายจ านวนมากพอสมควร โจทก์ร่วมก็ได้แถลงต่อศาลว่าไม่ติดใจเรียกร้อง
ค่าเสียหายในส่วนแพ่งจากจ าเลยอีกต่อไป พฤติการณ์ต่าง ๆ ของจ าเลยแสดงว่าจ าเลยได้รู้ส านึกในการ
กระท าของจ าเลยและโจทก์ร่วมยอมให้อภัยการกระท าของจ าเลยแล้ว ทั้งศาลล่างทั้งสองก าหนดโทษจ าคุก
จ าเลยมีก าหนดเพียง ๑ ปี ซึ่งเป็นโทษไม่สูง ตลอดจนไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยกระท าผิดได้รับโทษจ าคุกมา
ก่อน คดีจึงมีเหตุสมควรให้รอการกาหนดโทษจ าเลยไว้ก่อน ตาม ป.อ มาตรา ๕๖ วรรคแรก เพื่อให้โอกาส
จ าเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี โดยที่จ าเลยไม่จ าต้องกังวลกับโทษจ าคุกที่ศาลได้ก าหนดไว้ล่วงหน้าท านองการ
รอการลงโทษแต่อย่างใด อันจะเป็นประโยชน์ต่อจ าเลยในการกลับตัวเป็นพลเมืองดีอย่างแท้จริง ที่ศาล
อุทธรณ์ภาค ๑ พิพากษาลงโทษจ าคุกจ าเลยมานั้น ศาลฎีกาไม่เห็นพ้องด้วย
๗๐๐๔/๒๕๖๑ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๙๗ (๘) ประกอบมาตรา ๗๒ ทางน าสืบของจ าเลย
ุ
เป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจ าคก ๖ เดือน โทษจ าคุกรอการลงโทษและคุม
ความประพฤติ
เมื่อพิเคราะห์ถึงความสัมพันธ์ทางสายโลหิตระหว่างโจทก์ร่วมกับจ าเลย และพฤติการณ์แห่งคดีที่
โจทก์ร่วมมีส่วนก่อให้จ าเลยกระท าความผิด ประกอบกับจ าเลยเคยมีคุณความดีต่อชุมชนมาก่อน และไม่เคย
มีประวัติต้องโทษจ าคุกใด ๆ เพื่อให้จ าเลยกลับตัวเป็นพลเมืองดี ทั้งยังช่วยท าให้สายสัมพันธ์ฉันพี่น้องไม่
แตกร้าวมากไปกว่าเดิม โทษจ าคุกเห็นควรรอการลงโทษไว้แต่เพื่อให้จ าเลยหลาบจ าจึงให้คุมความประพฤติ
ไว้ด้วย
๓๐๖๘๑๒๕๖๒ มีความผิดตาม ป.อ ๓๐๐ พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.๒๕๒๒ มาตรา ๔๓ (๔) ๗๐,
๑๔๘ วรรคหนึ่ง ๑๕๗ จ าคุก ๑ ปี และปรับ ๔,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษและคุมความประพฤติ
ภายหลังเกิดเหตุจ าเลยมิได้หลบหนีไปที่อื่นคงยืนรอมอบตัวต่อเจ้าพนักงานต ารวจอยู่ในที่เกิดเหตุ
แสดงให้เห็นว่าจ าเลยมีความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเมื่อข้อเท็จจริงได้ความว่า จ าเลยไปเยี่ยม
โจทก์ร่วมที่โรงพยาบาลและชดใช้เงินให้แก่โจทก์ร่วม ประกอบกับบริษัทผู้รับประกันภัยรถยนต์ของจ าเลยได้
น าเงินมาวางศาลเพื่อชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม ซี่งเมื่อรวมแล้วเป็นเงินมากถึง ๕๐๐,๐๐๐ บาท นับว่า
เป็นจ านวนที่สูงใกล้เคียงแก่การจะช าระค่าสินไหมทดแทนตามที่ศาลฎีกาก าหนดไว้ แสดงถึงว่าจ าเลยมี
ความส านึกในการกระท าความผิดของตน และห่วงใยต่อความเสียหายของโจทก์ร่วมที่ได้รับ นอกจากนั้น
จ าเลยมีอายุมากถึง ๖๖ ปีเศษ เมื่อไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยได้รับโทษจ าคุกมาก่อน และโจทก์ร่วมก็มีส่วน
ประมาทก่อให้เกิดความเสียหายขึ้นด้วย จึงเห็นสมควรให้โอกาสแก่จ าเลยได้กลับตัวเป็นพลเมืองดี