Page 19 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 19

17




                         แม้จ าเลยกระท าอนาจารแก่ผู้เสียหายที่ ๑ ซึ่งมีอายุประมาณ ๒ ปี แต่จ าเลยก็มิได้ใช้ก าลัง

               ประทุษร้ายผู้เสียหายที่ ๑ แต่ประการใด ทั้งข้อเท็จจริงได้ความว่า ก่อนและหลังเกิดเหตุจ าเลยและนาง ก.
               ให้ความอุปการะเลี้ยงดูผู้เสียหายที่ ๑ ตลอดมา โดยไม่ปรากฏข้อเท็จจริงจากผู้เสียหายที่ ๒ ว่าหลังเกิดเหตุ

               คดีนี้แล้วจ าเลยได้กระท าอนาจารแก่ผู้เสียหายที่ ๑ อีก ประกอบกับจ าเลยมีอายุมากแล้ว เมื่อศาลลงโทษ

               จ าเลยในความผิดฐานกระท าอนาจารผู้เสียหายที่ ๑ แล้ว เชื่อว่าจ าเลยรู้ส านึกในความผิดและไม่คิดที่จะ
               กระท าอนาจารแก่ผู้เสียหายที่ ๑ อีก ดังนี้ หากปรานีจ าเลยด้วยการรอการลงโทษจ าคุกจ าเลยไว้น่าจะบังเกิด

               ผลดีแก่จ าเลยและผู้เสียหายที่ ๑ ที่อยู่ในความอุปการะเลี้ยงดูมากกว่า (ผู้เสียหายที่ ๒ เป็นมารดาผู้เสียหาย
               ที่ ๑ พักอาศัยอยู่กับนาง ก.มารดาของผู้เสียหายที่ ๒ โดยจ าเลยเป็นสามีใหม่ของนาง ก.)


                         ๕๓๖๘/๒๕๖๒ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๗๗ วรรคหนึ่ง (เดิม) ๒๘๓ ทวิ วรรคสอง (เดิม) ๒๘๔

               วรรคแรก (เดิม) ๓๑๗ วรรคสาม (เดิม) รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๕ ปี ๑๘ เดือน และปรับ
               ๑๐,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการลงโทษและคุมความประพฤติ


                         จ าเลยให้การรับสารภาพโดยตลอดและไม่ติดใจสืบพยาน แสดงถึงว่ารู้สึกส านึกในการกระท าผิดของ
               ตน และผู้เสียหายที่ ๒ เบิกความตอบค าถามค้านทนายจ าเลยว่า หากจ าเลยบรรเทาความเสียหายให้แก่

               ผู้เสียหายที่ ๒ เป็นเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท ผู้เสียหายที่ ๒ ก็ไม่ติดใจเอาความผิดกับจ าเลยทั้งทางแพ่งและทาง

               อาญาอีกต่อไป และปรากฏว่าจ าเลยน าเงิน ๓๐,๐๐๐ บาท มาวางศาลเพื่อช าระแก่ผู้เสียหายทั้งสองและ
               ผู้เสียหายทั้งสองรับเงินไปแล้ว เมื่อผู้เสียหายทั้งสองไม่ติดใจด าเนินคดี ประกอบกับไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคย

               ได้รับโทษจ าคุกมาก่อน เห็นควรให้โอกาสแก่จ าเลยได้กลับตัวสักครั้ง โดยให้รอการลงโทษจ าคุกไว้ แต่เพื่อให้
               หลาบจ าเห็นควรลงโทษปรับจ าเลยอีกสถานหนึ่งและให้คุมความประพฤติของจ าเลยไว้




               ๔.ควำมผิดเกี่ยวกับเสรีภำพ


                    ไม่รอกำรลงโทษ


                         ๖๓๐๖/๒๕๖๒ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๓๑๙ วรรคแรก (เดิม) มาตรา ๓๑๙ วรรคแรก (ใหม่)
               ค าให้การและทางน าสืบของจ าเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจ าคุก ๑๔ ปี


                         จ าเลยกระท าช าเราผู้เสียหายที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้เยาว์อยู่ในวัยศึกษาเล่าเรียน แม้ผู้เสียหายที่ ๒ จะ
               ยินยอม แต่ขณะเกิดเหตุจ าเลยอายุ ๓๓ ปี มีภรรยาแล้ว แต่จ าเลยมิได้ปฏิบัติตนอยู่ในศีลธรรมกลับไม่ยับยั้ง

               ชั่งใจ และกระท าเรื่องที่ไม่สมควรทางเพศต่อผู้เสียหายที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้เยาว์อายุน้อย ตามพฤติการณ์แห่งคดีไม่

               สมควรรอการลงโทษให้แก่จ าเลย
   14   15   16   17   18   19   20   21   22   23   24