Page 18 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 18
16
พฤติการณ์ที่จ าเลยซึ่งรับราชการเป็นครูกระท าอนาจารผู้เสียหายทั้งสี่และกระท าช าเราผู้เสียหายที่
ั้
๒ กับที่ ๓ ซึ่งทั้งหมดต่างเป็นศิษย์ในความดูแลของจ าเลย ทั้งกระท าหลายครงหลายคราว เป็นการล่วง
ละเมิดทางเพศโดยอาศัยความอ่อนวัยของผู้เสียหายทั้งสี่เพื่อสนองความใคร่ของตนเอง เสื่อมเสียต่อ
จริยธรรมคุณธรรมของความเป็นครู และขัดต่อศีลธรรมอันดีของประชาชน พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่อง
ร้ายแรงมาก แม้จ าเลยอ้างว่าจ าเลยมีผลงานทางการท างานดี ไม่เคยมีประวัติความประพฤติที่เสื่อมเสียมา
ก่อน ชดใช้ค่าเสียหายแก่ฝ่ายผู้เสียหายแล้ว มีภาระต้องอุปการะเลี้ยงดูบุคคลในครอบครัวหรือมีเหตุอื่นดังที่
อ้างในฎีกา ก็ไม่เป็นเหตุเพียงพอที่จะรับฟังเพื่อรอการลงโทษจ าคุกให้แก่จ าเลย
๘๗๖๗/๒๕๖๑ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๙๗ วรรคแรก (เดิม) และวรรคสอง (เดิม) ๒๘๓ ทวิ
วรรคสอง (เดิม) ๓๑๗ วรรคสาม (เดิม) รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๓ ปี ๖ เดือน
จ าเลยอายุ ๖๓ ปี ย่อมเป็นผู้มีวัยวุฒิและประสบการณ์ชีวิตสูง แต่จ าเลยกลับกระท าอนาจารแก่
ผู้เสียหายที่ ๒ ซึ่งเป็นเด็กอายุเพียง ๗ ปี เศษ โดยไม่ค านึงถึงความเสียหายแก่การด าเนินชีวิตและอนาคต
ของผู้เสียหายที่ ๒ ทั้งไม่ค านึงถึงความเดือนร้อนของผู้เสียหายที่ ๑ ซึ่งเป็นมารดาผู้เสียหายที่ ๒ พฤติการณ์
ของจ าเลยนับว่าเป็นเรื่องร้ายแรง และเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่บุคคลอื่น ที่ศาลอุทธรณ์ไม่รอการลงโทษ
จ าคุกให้แก่จ าเลยมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย
รอกำรลงโทษ
๑๑๖๘/๒๕๕๖ มีความผิด ป.อ มาตรา ๒๗๙ วรรคสอง และปรับ ๖,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกให้รอการ
ลงโทษ
เมื่อข้อเท็จจริงที่ได้ความจากการพิจารณาว่าจ าเลยเพียงแต่นอนทับ ใช้มือจับแก้มและอวัยวะเพศ
ของผู้เสียหาย โดยมิได้กอดจูบ ใช้นิ้วจิ้มสอดใส่อวัยวะเพศ ใช้กระดาษหนังสือและผ้าขนหนูม้วนยัดสอดใส่
เข้าไปในอวัยวะเพศของผู้เสียหายดังที่โจทก์กล่าวมาในฟ้องแต่ประการใด ประกอบกับนาง ป.มารดาของ
ผู้เสียหายเบิกความเป็นพยานจ าเลยและยื่นค าร้องในชั้นฎีกาลงวันที่ ๒๐ เมษายน ๒๕๕๒ ยืนยันมาโดย
ตลอดว่า จ าเลยน่าจะไม่ได้กระท าผิดคดีนี้พร้อมทั้งขอให้ลงโทษจ าเลยสถานเบาและรอการลงโทษจ าคุก
ให้แก่จ าเลยด้วยแล้ว เมื่อไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยกระท าความผิดถึงต้องโทษจ าคุกมาก่อน ทั้งจ าเลยต้องขังใน
ระหว่างพิจารณาก่อนได้รับอนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราวมาบ้างแล้ว สภาพความผิดตามพฤติการณ์ยังไม่
ถึงกับร้ายแรงเท่าใดนัก จึงสมควรรอการลงโทษให้จ าเลยเพื่อให้โอกาสแก่จ าเลยได้กลับตัวประพฤติตนเป็น
พลเมืองดีต่อไป แต่เพื่อให้จ าเลยหลาบจ าและเกรงกลัวต่อกฎหมาย สมควรลงโทษปรับจ าเลยอีกสถานหนึ่ง
๖๗๗๕/๒๕๕๗ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๗๙ วรรคแรก ๒๙๕ จ าคุก ๑ ปี ๑ เดือน และปรับ
๖,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกให้รอการลงโทษและคุมความประพฤติ (รับสารภาพข้อหาตามมาตรา ๒๙๕ ปฏิเสธ
ข้อหาตามมาตรา ๒๗๙ วรรคแรก)