Page 13 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 13
11
ลงโทษจ าคุก ๑๕ วัน และปรับ ๑,๕๐๐ บาท ในความผิดฐานร่วมกันท าร้ายร่างกายผู้อื่นตามคดีอาญา
หมายเลขแดงที่ ๑๘๔๙/๒๕๕๑ ของศาลแขวงนครปฐม ซึ่งศาลแขวงนครปฐมให้โอกาสจ าเลยได้กลับตนเป็น
พลเมืองดี โดยรอการลงโทษจ าคุกไว้มีก าหนด ๑ ปี แต่จ าเลยก็มิได้แก้ไขปรับปรุงตัว และมากระท าความผิด
คดีนี้อีก นับว่าจ าเลยเป็นผู้กระท าความผิดติดนิสัย ไม่ส านึกหรือเกรงกลัวต่อโทษที่ก าหนดไว้ในกฎหมาย ที่
ศาลอุทธรณ์ภาค ๗ ไม่รอการลงโทษจ าคุกให้จ าเลยในความผิดฐานนี้นั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาข้อนี้
จ าเลยฟังไม่ขึ้น แต่อย่างไรก็ตามปรากฏตามค าร้องของจ าเลยฉบับลงวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๕๔ ว่าจ าเลย
น าเงินค่าเสียหายจ านวน ๔๐,๐๐๐ บาท มาวางต่อศาลชั้นต้นเพื่อชดใช้แก่โจทก์ร่วมที่ ๒ อันแสดงว่าจ าเลยรู้
ส านึกถึงความผิดและพยายามบรรเทาผลร้ายแห่งความผิดของคน เห็นสมควรแก้ไขดุลพินิจในการก าหนด
โทษจ าเลยเสียใหม่ให้เหมาะสมแก่รูปคดีตาม ป.วิ.อ มาตรา ๑๘๕ วรรคสอง ประกอบมาตรา ๒๑๕ และ
๒๒๕
๒๓๕๖/๒๕๕๖ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๙๕, ๓๗๑ ประกอบมาตรา ๘๓ จ าคุก ๔ เดือน และ
ปรับ ๑๐๐ บาท
จ าเลยใช้อาวุธมีดท าร้ายผู้เสียหายที่ ๒ ซึ่งเป็นผู้หญิงโดยร่วมกับพวกถึง ๓ คน นอกจากจ าเลยใช้มีด
ฟันแล้วพวกของจ าเลยยังใช้อาวุธปืนยิงผู้เสียหายที่ ๒ โดยผู้เสียหายทั้งสามไม่ได้ก่อให้เกิดการกระท าผิดแต่
อย่างใด เพียงแต่ผู้เสียหายกับพวกขับรถจักรยานยนต์ผ่านศาลาพักผู้โดยสารที่จ าเลยกับพวกนั่งดื่มสุราอยู่
เท่านั้น กรณีจึงเป็นเรื่องร้ายแรงที่ไม่สมควรรอการลงโทษ ศาลฎีกาเห็นสมควรไม่รอการลงโทษ เพื่อมิให้เป็น
เยี่ยงอย่างแก่เยาวชนคนอื่นต่อไป
๔๒๑๐/๒๕๕๖ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๙๗ (๘) ทางน าสืบเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลด
โทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๖ เดือน
การที่จ าเลยใช้ของมีคมฟันผู้เสียหายจนได้รับอันตรายสาหัสเพียงเพราะเหตุที่ผู้เสียหายไม่ยอมให้
เบียร์แก่ผู้เสียหายตามที่ตกลงกันไว้เป็นการกระท าที่ไม่เคารพย าเกรงต่อกฎหมายและกระทบต่อความ
ปลอดภัยของสังคม พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องที่ร้ายแรง แม้จ าเลยได้ชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายตามที่
ตกลงไว้จนผู้เสียหายไม่ติดใจด าเนินคดีอาญาและคดีแพ่งแก่จ าเลยแล้ว ก็ไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษให้แก่
จ าเลย แต่การที่จ าเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหาย แสดงว่าจ าเลยรู้ส านึกในความผิดและบรรเทาผลร้าย
ที่เกิดขึ้นแล้ว เห็นควรลงโทษจ าเลยในสถานเบา
๙๕๓๑/๒๕๕๖ มีความผิดตาม ป.อ ๒๙๕ ลดโทษให้หนึ่งในสาม คงจ าคุก ๘ เดือน
จ าเลยก่อเหตุท าร้ายร่างกายโดยใช้มีดฟันและแทงผู้เสียหายทั้งสามในงานประจ าปีวัด ห. มีลักษณะ
เป็นนักเลงอันธพาล พฤติการณ์ในการกระท าความผิดของจ าเลยเป็นการกระท าที่ไม่เคารพย าเกรงต่อ
กฎหมาย เป็นเรื่องที่ร้ายแรง แม้จ าเลยชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายทั้งสามจนไม่ติดใจด าเนินคดีแก่จ าเลย