Page 11 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 11

9




               เพื่อเป็นการบรรเทาผลร้ายให้แก่โจทก์ร่วมทั้งสามและผู้ร้องแต่อย่างใด ที่ศาลล่างทั้งสองใช้ดุลพินิจลงโทษ

               จ าคุก ๑ ปี ๔ เดือน โดยไม่รอการลงโทษให้แก่จ าเลยนั้น นับว่าเป็นผลดีและเป็นประโยชน์แก่จ าเลยมาก
               แล้ว ไม่มีเหตุผลที่ศาลฎีกาจะเปลี่ยนแปลงแก้ไข


                     รอกำรลงโทษ


                         ๗๕๑๖/๒๕๕๕ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๘๘ ประกอบมาตรา ๘๐ มาตรา ๖๙, ๓๗๑ พ.ร.บ.
               อาวุธปืนฯ พ.ศ. ๒๔๙๐ มาตรา ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง ๗๒ ทวิ วรรคสอง ลดโทษให้หนึ่งในสี่ คงจ าคุก ๑ ปี ๖

               เดือน และปรับ ๖,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกให้รอการลงโทษ

                         แม้จ าเลยใช้อาวุธปืนซึ่งมีอานุภาพร้ายแรงสามารถท าอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ยิงโจทก์ร่วม แต่โจทก์

               ร่วมมีส่วนผิดโดยเป็นฝ่ายก่อเหตุขึ้นก่อนและโจทก์ร่วมได้รับบาดเจ็บเพียงมีบาดแผลถลอกที่ปลายแขนซ้าย

               ซึ่งมิได้ร้ายแรง กับได้ความว่าจ าเลยเองก็ถูกโจทก์ร่วมเข้าท าร้ายร่างกายจนหมดสติอยู่ในที่เกิดเหตุเช่นกัน
               เมื่อค านึงถึงพฤติการณ์แห่งคดีและความร้ายแรงในการกระท าความผิดของจ าเลยแล้ว กรณีจึงยังสมควร

               ปรานีรอการลงโทษให้จ าเลย

                         ๑๓๕๑/๒๕๕๙ มีความผิดตาม ป.อ ๓๐๐ จ าคุก ๓ เดือน และปรับ ๒,๐๐๐ บาท โทษจ าคุกรอการ

               ลงโทษ

                         เหตุแห่งคดีนี้เกิดจากความประมาทของฝ่ายผู้ตายมากกว่า โทษที่ศาลอุทธรณ์ภาค ๔ ลงแก่จ าเลย

               ๖ เดือน จึงหนักเกินไป เห็นสมควรก าหนดเสียใหม่ให้เหมาะสม และไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยต้องโทษจ าคุก

               มาก่อน จึงเห็นสมควรรอการลงโทษให้แก่จ าเลย

                         ๑๗๐๖-๑๗๐๗/๒๕๖๐ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๒๙๐ วรรคแรก ประกอบมาตรา ๗๒ ค าให้การ

               และทางน าสืบของจ าเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๑ ปี ๖ เดือน โทษจ าคุก
               ให้รอการลงโทษและคุมความประพฤติ


                         ที่จ าเลยฎีกาขอให้รอการลงโทษเป็นการโต้แย้งดุลพินิจในการก าหนดโทษ เป็นปัญหาข้อเท็จจริง

               ฎีกาของจ าเลยจึงต้องห้ามตาม ป.วิ.อ มาตรา ๒๑๘ วรรคหนึ่ง แต่เมื่อคดีขึ้นมาสู่ศาลฎีกาแล้ว ศาลฎีกา
               เห็นสมควรวินิจฉัยว่ามีเหตุสมควรรอการลงโทษแก่จ าเลยหรือไม่ เมื่อพิเคราะห์ถึงพฤติการณ์แห่งคดีจ าเลย

               ฎีกาว่า ไม่ตั้งใจกระท าผิดต่อผู้ตาย แต่กระท าไปเพราะบันดาลโทสะ เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่าผู้ตายเป็นผู้ก่อให้
               จ าเลยกระท าความผิด และในระหว่างพิจารณาของศาลชั้นต้นจ าเลยน าเงิน ๕๐,๐๐๐ บาท มาวางศาลเพื่อ

               มอบให้ทายาทของผู้ตาย นับว่าจ าเลยได้ส านึกผิดและเยียวยาบรรเทาผลร้าย ประกอบกับตามรายงานการ

               สืบเสาะและพินิจของพนักงานคุมประพฤติไม่ปรากฏว่าจ าเลยเคยต้องโทษจ าคุกมาก่อน ศาลฎีกาจึง
               เห็นสมควรลดโทษจ าคุกให้จ าเลยเพราะกระท าโดยเหตุบันดาลโทสะและให้โอกาสจ าเลยกลับประพฤติตน
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16