Page 34 - แนวคำพิพากษาศาลฎีกาเกี่ยวกับดุลพินิจในการรอหรือไม่รอการลงโทษหรือกำหนดโทษ
P. 34

32

                                                                                                                      8

               ๑๓.ควำมผิดเกี่ยวกับอำวุธปืน


                    ไม่รอกำรลงโทษ

                         ฎ ๓๘๔/๒๕๕๕ มีความผิดตาม ป.อ มาตรา ๓๓๔ พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.๒๔๘๔ มาตรา ๔๘ วรรคหนึ่ง

               ๗๓ วรรคสอง (๑) พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๗๒ วรรคหนึ่ง วรรคสาม จ าคุก ๓ ปี ๖ เดือน

               รับสารภาพ ลดโทษให้กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๑ ปี ๙ เดือน

                         จ าเลยกระท าความผิดหลายข้อหา และข้อเท็จจริงยังได้ความจากรายงานการสืบเสาะและพินิจ

               จ าเลยของพนักงานคุมประพฤติ ซึ่งจ าเลยมิได้คัดค้านว่า จ าเลยมีประวัติถูกด าเนินคดีมาแล้วหลายคดี และ
               ยังเกยวข้องกับอาวุธปืนมานาน เคยพาอาวุธปืนไปในที่สาธารณะเพื่อน าไปข่มขู่เพื่อนบ้านบ่อยครั้งและเคย
                    ี่
               ถูกด าเนินคดีในความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ มาแล้ว ๑ ครั้ง จนกระทั่งศาลมณฑลทหารบกที่ ๓๒ พิพากษา

               ลงโทษจ าคุก ๑ ปี ๙ เดือน และยังมากระท าผิดซ้ าในคดีนี้ซึ่งนอกจากจะกระท าความผิดฐานอื่นแล้วยัง
               กระท าความผิดต่อ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ รวมอยู่ด้วย แสดงว่าจ าเลยไม่รู้สึกเข็ดหลาบและวิธีการไม่จ ากัด

               อิสรภาพไม่สามารถแก้ไขปรับปรุงจ าเลยให้กลับตัวเป็นพลเมืองดีได้ แม้จ าเลยจะได้รับการล้างมลทินตาม
               พ.ร.บ.ล้างมลทินในวโรกาสที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชมีพระชนมพรรษา ๘๐

               พรรษา พ.ศ.๒๕๕๐ ซึ่งถือว่าจ าเลยไม่เคยถูกลงโทษจ าคุกมาก่อน แต่ก็มีผลเพียงให้ถือว่าจ าเลยไม่เคยถูก
               ลงโทษจ าคุกเท่านั้น มิได้มีผลถึงความประพฤติหรือการกระท าอันเป็นเหตุให้จ าเลยถูกลงโทษลบล้างไปด้วย

               จึงไม่มีเหตุสมควรที่จะรอการลงโทษให้แก่จ าเลย


                         ๑๒๐๖๘/๒๕๕๕ มีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ พ.ศ.๒๔๙๐ มาตรา ๗, ๘ ทวิ วรรคหนึ่ง วรรค
               สอง ๗๒ วรรคสอง ๗๒ ทวิ วรรคสอง ป.อ มาตรา ๓๗๑, ๓๗๖ ประกอบมาตรา ๘๓ รับสารภาพ ลดโทษให้

               กึ่งหนึ่ง คงจ าคุก ๖ เดือน ๕ วัน

                         จ าเลยร่วมกันพาอาวุธปืนภายหลังร่วมดื่มสุรากับพวกมาแล้วด้วย ซึ่งอาจท าให้จ าเลยครองสติไม่ได้

               จึงท าให้จ าเลยร่วมกันใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้า สร้างความหวาดกลัวแก่ผู้พบเห็นถึงความไม่ปลอดภัยในชีวิตและ

               ทรัพย์สิน กระทบต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ประกอบกับจ าเลยมี
               ประวัติการกระท าความผิดมาแล้ว ๓ ครั้ง โดยครั้งแรกศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษปรับจ าเลย ๘,๐๐๐ บาท

               ในความผิดฐานขับรถโดยไม่ค านึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ครั้งที่สองศาลชั้นต้นพิพากษาจ าคุก ๑ ปี ใน
               ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ และครั้งที่สามศาลฎีกาพิพากษาจ าคุก ๘ เดือน ในความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ

               การกระท าของจ าเลยจึงไม่เข็ดหลาบและไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย แม้จ าเลยมีภาระต้องเลี้ยงดูบุคคลใน

               ครอบครัวตลอดจนประกอบอาชีพเป็นหลักแหล่ง ก็ไม่มีเหตุที่จะรอการลงโทษหรือรอการก าหนดโทษให้
               จ าเลย
   29   30   31   32   33   34   35   36   37   38   39